เปิดแล้ว "รถไฟสายจีน-ลาว" 1,035 กม. เชื่อมคุนหมิง-เวียงจันทน์ | คมชัดลึก

"รถไฟสายจีน-ลาว" โครงการความร่วมมือระหว่างสองประเทศภายใต้โครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง เปิดให้บริการแล้วผ่านการประชุมทางไกลระหว่างสองประเทศเมื่อวันที่ 3 ธ.ค. ที่ผ่านมา

โครงการ "รถไฟสายจีน-ลาว" นี้เชื่อมระหว่างเมืองคุนหมิง มณฑลยูนนาน กับ นครเวียงจันทน์ สสป.ลาว เพื่อเชื่อมความเจริญจากเมืองหลวงไปสู่เมืองท้องถิ่นและร่วมกันสร้างพัฒนาการทางเศรษฐกิจสะหว่างสองประเทศ

เส้นทาง "รถไฟสายจีน-ลาว" เริ่มต้นจากเมืองคุนหมิง มณฑลยูนนาน ออกจากประเทศจีนทางด่านโม่ฮาน และเข้าประเทศลาวโดยผ่านด่านบ่อเต็น แล้วจึงวิ่งเข้าสู่นครเวียงจันทน์ รวมความยาวทั้งสิ้น 1,035 กิโลเมตร ซึ่งวิ่งด้วยรถไฟทั้งหมด 2 สาย

• 1. ขบวน "ล้านช้าง" ซึ่งวิ่งจาก คุนหมิง ถึงโม่ฮาน ชายแดน จีน-ลาว
• 2. ขบวน "ฟูซิ่ง" ซึ่งวิ่งจาก เวียงจันทน์−บ่อเต็น ชายแดน ลาว-จีน

สองขบวนนี้เป็นรถไฟวิ่งความเร็วสูงสุด 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รองรับผู้โดยสารได้มากถึง 720 คน โดยบนรถไฟยังมีป้ายบอกข้อมูลมากถึง 3 ภาษาด้วยกัน ได้แก่ ภาษาจีน ภาษาลาว และภาษาอังกฤษ แต่เมื่อทั้งสองประเทศต่างเปิดประเทศ ผู้โดยสารจึงจะสามารถนั่งรถไฟจากคุนหมิงถึงเวียงจันทน์และเวียงจันทน์ถึงถึงคุนหมิงได้ในเวลาเพียง 10 ชั่วโมงได้ ในเวลานี้จึงสามารถนั่งรถไฟได้ภายในประเทศเท่านั้น

ภายในวันเดียวกัน ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กล่าวว่าโครงการรถไฟจีน-ลาวเป็นโครงการความร่วมมือภายใต้โครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road Initiative) ระหว่างประเทศจีนกับประเทศพันธมิตรที่เข้าร่วม ภายใต้โครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางนั้น จีนมีตั้งใจที่จะยกระดับมาตรฐาน และ การพัฒนาความเป็นอยู่ของผู้คนจากประเทศที่เกี่ยวข้องเพื่อจีนและพันธมิตรบรรลุผลประโยชน์ร่วมกันและเพื่อเศรษฐกิจโลกที่ยั่งยืนสืบไป และในฐานะที่ประเทศลาวเป็นพันธมิตรในโครงการเชื่อมต่อระหว่าง โครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง โครงการเส้นทางรถไฟนี้จะเปลี่ยนลาวจากประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลให้เป็นศูนย์กลางทางบก และช่วยพัฒนาสภาพสังคมและเศรษฐกิจของเวียดนามให้ก้าวทันต่อโลกในศัตวรรษที่ 21

โครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง คืออะไร?

โครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง หรือ ข้อริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road Initiative) เป็นโครงการของรัฐบาลจีน มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเชื่อมโยงตลาดการค้าระหว่างประเทศจีนและ ประเทศพันธมิตรในภูมิภาคเอเชียและยุโรปและแอฟริกา โดยรัฐบาลจีนมุ่งหวัง ให้เป็นเส้นทางสายไหม (Silk Road) เส้นใหม่ และเพิ่มเส้นทางขนส่งทางทะเล

ชื่อโครงการมีความหมายตรงตัวนั่นคือ Belt หมายถึง เส้นทางขนส่งทางบก ได้แก่ถนนและทางรถไฟ Road หมายถึง เส้นทางขนส่งทางทะเล จึงเรียกชื่อเต็มได้ว่า Belt and Road Initiative โครงการนี้เริ่มดำเนินการเมื่อปี ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556) และคาดว่าจะสิ้นสุด ค.ศ. 2049 (พ.ศ. 2592)