
หินพญา "ชาละวัน" มหัศจรรย์ธรรมชาติ วัดอัมรินทร์คูหา อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก
วัดเขาถ้ำม่วง มีหินงอกหินย้อยสวยงาม และพบหินรูปจระเข้ยักษ์ หรือพญาชาละวัน ที่จำศีลในถ้ำแม่ละอองน้ำทิพย์ ปรากฏมี ตาน้ำไหล ไหลซึมออกมาจาก ชั้นหิน ใต้ท้องหินพญาชาละวัน
วันที่ 10 ธ.ค. 64 กิจกรรมท่องเที่ยว ในช่วงวันหยุดยาว 3 วัน โดยเฉพาะกลุ่มผจญภัย ส่วนใหญ่จะเสาะหาแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติ เพื่อได้พบกับสิ่งมหัศจรรย์ใหม่ ๆ ล่าสุดที่จังหวัดพิษณุโลก เที่ยวถ้ำ หินงอก หินย้อย รูปทรงต่างๆ ที่น่าตื่นตาตื่นใจ โดยเฉพาะหินพญาชาละวัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ ต.บ้านมุง อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก มีภูมิทัศน์ส่วนใหญ่เป็นภูเขาหินปูนอายุหลายร้อยล้านปี จำนวนมาก หรือ หลายคนเรียกว่า "กุ้ยหลินเมืองไทย" นอกภูเขาหินที่สวยงามแล้ว ยังมีถ้ำต่างๆ ตามภูเขาหินในพื้นที่ ต.บ้านมุง อ.เนินมะปราง ให้นักท่องเที่ยวได้ชมความงามมหัศจรรย์ของธรรมชาติ หินงอก หินย้อย รูปทรงต่างๆ สวยงาม
โดยเฉพาะเขาหินปูนภายในวัดอัมรินทร์คูหา หรือ วัดถ้ำม่วง หมู่ 4 ต.บ้านมุง อ.เนินมะปราง เขตห้ามล่าสัตว์ป่าผาท่าพล ซึ่งเป็น 1 ใน 6 ถ้ำ ของ วัดเขาถ้ำม่วง มีหินงอกหินย้อยสวยงาม และพบหินรูปจระเข้ยักษ์ หรือพญาชาละวัน ที่จำศีลในถ้ำแม่ละอองน้ำทิพย์
พระครูสุภาจารประสิทธิ์ (ไสว) เจ้าอาวาสวัดอัมรินทร์คูหา (วัดถ้ำม่วง) บอกว่า หินรูปลักษณะ คล้าย พญาจระเข้ ตัวใหญ่ หรือบางท่านเรียกว่า "หินพญาชาละวัน" นอนจำศีลในถ้ำ แห่งนี้ มีลักษณะเป็น ชั้นหิน ที่เก่าที่สุด มีอายุมากที่สุด ในถ้ำหรือขุนเขาแห่งนี้
ก่อนที่จะเกิดเป็นหินปูน และหิน ชนิดอื่น ๆ ในถ้ำและเขาถ้ำม่วงแห่งนี้ หินมีน้ำตาลเข้ม มีลักษณะผิวผุพรุน เนื้อหยาบ ซึ่งผิดกับผิวหินทั่วไป ในถ้ำนี้เป็นหินปูนและแกรนิต มีสีเทาอมขาว มีเนื้อแกร่งและผิวมัน และปรากฏมี ตาน้ำไหล ไหลซึมออกมาจาก ชั้นหิน ใต้ท้องหินพญาชาละวัน และหินปูนที่รองรับหินพญาชาละวัน จนเป็นบ่อน้ำหินไหลซึมออกมาตลอดทั้งปี ไม่มีวันเหือดแห้ง
ชาวบ้าน เรียกกันว่าบ่อน้ำทิพย์ ในช่วงวันหยุดยาว 3 วัน เชิญนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบธรรมชาติก็สามารถมาเที่ยวกันได้ใช้เวลาไม่นาน 2-3 ชั่วโมง ก็สามารถเก็บความประทับใจอีกแห่งได้เช่นกัน