ข่าว

"นิพนธ์" จับมือ วุฒิสภา เดินหน้าลดการเสียชีวิตบนท้องถนน

"นิพนธ์" จับมือ วุฒิสภา เดินหน้าลดการเสียชีวิตบนท้องถนน

19 ธ.ค. 2564

"นิพนธ์" จับมือ วุฒิสภา เดินหน้าลดอัตราการเสียชีวิตบนท้องถนน ตั้งเป้าลดอัตราการเสียชีวิตไม่เกิน 12 คนต่อประชากร 100,000 คนในปี 2570

นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เข้าร่วมงานสัมมนาเรื่อง วุฒิสภาค้นหาเพื่อเป็นนโยบาย (Best Practice) ที่ห้องประชุมหมายเลข 402 - 403 ชั้น 4 อาคารรัฐสภา (โซนวุฒิสภา)เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2564 โดยมีศาสตราจารย์พิเศษ พรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา พร้อมด้วย นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ประธานคณะกรรมการบูรณาการกู้ชีพฉุกเฉินและความปลอดภัยทางถนน ผู้บริหารส่วนราชการ และผู้แทนภาคประชาชน เข้าร่วมงาน

 

นายนิพนธ์ กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับความปลอดภัยทางถนน โดยเฉพาะการเข้มงวดกฎหมายวินัยจราจร ปัจจุบันได้นำระบบตัดแต้มมาใช้ ซึ่งกระทรวงคมนาคมได้เริ่มระบบตัดแต้มตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา สำหรับผู้ขับรถสาธารณะและรถขนส่ง โดยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญเร่งดำเนินการออกระเบียบการตัดแต้มรถจักรยานยนต์ที่ไม่สวมหมวกนิรภัยให้ได้ 100% 

รมช.มหาดไทย กล่าวอีกว่า จากความทุ่มเทของทุกฝ่ายได้ผลักดันเรื่องความปลอดภัยทางถนนโดยเฉพาะตำบลขับขี่ปลอดภัย ที่สร้างวินัยให้กับคนในพื้นที่ ปัจจุบันประเทศไทยมีถนนทั่วประเทศ 700,000 กิโลเมตร อยู่ในความรับผิดชอบขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) 600,000 กว่ากิโลเมตร 

 

การดึงให้เข้ามามีส่วนร่วม ทั้งจาก อบจ. อบต. และเทศบาล เข้ามาลดปัจจัยเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุทางถนนในพื้นที่ ทั้งสัญญาณไฟจราจร ป้ายจราจร สร้างการรับรู้ ความตระหนัก ด้านความความปลอดภัยทางถนนของในระดับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พร้อมผลักดันและกระตุ้นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินการขับเคลื่อนงานด้านการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน

“ ต้องขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้ความร่วมมือช่วยกันดูแลภัยที่คุกคามชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนเมื่อเทียบกับสถิติอุบัติเหตุทางถนนในเฉลี่ย 3 ปีย้อนหลังจำนวนครั้งของการเกิดอุบัติเหตุ จำนวนผู้เสียชีวิต และจำนวนผู้บาดเจ็บลดลง และหลังจากการควบคุมของโรคไวรัสโควิด-19 แล้วต้องดูแลการจราจรอย่างเข้มข้นต่อไปเพื่อลดอัตราการเสียชีวิตให้เหลือ 12 คนต่อประชากรแสนคน ภายในปี 2570 

 

โดยให้ความสำคัญกับกลไกในการขับเคลื่อนศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน(ศปถ.)ทุกระดับ ทั้งระดับจังหวัด อำเภอ และท้องถิ่น โดยให้บูรณาการร่วมกับ อปท. และประชาชนในพื้นที่ ร่วมกันขับเคลื่อน “ตำบลขับขี่ปลอดภัย “ เพื่อให้สามารถลดความสูญเสีย และผลกระทบที่เกิดจากอุบัติเหตุทางถนนได้อย่างแท้จริง” นายนิพนธ์กล่าว