ช้างป่า "เขาใหญ่" สู้กันจนหางขาด บาดเจ็บ 2 ตัว จนท.เร่งตามรักษา
นักท่องเที่ยวพบ "ช้างป่า" บาดเจ็บ 2 ตัวที "เขาใหญ่" แจ้งเจ้าหน้าที่เร่งช่วยเหลือ ด้านเขาใหญ่ 1 ยืนยันไม่ละเลย ติดตามตั้งแต่ทราบเรื่อง แต่ช้างเข้าป่าลึกรักษาตัวตามสัณชาตญานหาตัวไม่เจอ คาดพรุ่งนี้เริ่มแผนการรักษาได้
จากกรณีมีนักท่องเที่ยวและผู้ที่ชื่นชอบในการถ่ายภาพ เดินทางขึ้นไปท่องเที่ยวและเก็บภาพต่าง ๆ บนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และพบว่ามีช้างป่า 2 ตัว กำลังได้รับบาดเจ็บ โดยตัวหนึ่งหางขาด บาดแผลยังมีเลือดไหลและมีกลิ่นเหม็นเน่า ขณะที่อีกตัวมีแผลที่ขา เดินกะเผลก ทั้งนี้นักท่องเที่ยวถ่ายภาพได้ขณะช้างเดินอยู่บนถนนเส้นเขาใหญ่ ทางลงปราจีนบุรี เกรงว่าช้างทั้งสองตัวจะติดเชื้อและล้มลง จึงได้ถ่ายภาพและส่งข้อมูลแจ้งไปยังผู้เกี่ยวข้อง
นายอดิศักดิ์ ภูสิทธิ์วงศานุยุต หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เปิดเผยกับ "คมชัดลึก" เกี่ยวกับกรณีดังกล่าวว่า
เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2564 พบช้างป่าเพศผู้ จำนวน 1 ตัว หางขาด อยู่บริเวณ กม. 14 ถนนสาย 3077 จากอัตลักษณ์พบว่าเป็น “พลายเบี่ยงเล็ก” จากการดูลักษณะอาการช้างป่าตัวดังกล่าว สามารถเดินหากินได้ จึงให้เจ้าหน้าที่ฯ หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ที่ 12 (เนินหอม) ติดตามช้างป่าเพื่อจะประเมินสภาพร่างกายช้างในการดำเนินการต่อไป
ต่อมาวันที่ 17 ธันวาคม 2564 ได้พบ “พลายเบี่ยงเล็ก” อีกครั้ง จึงได้จะนำสมุนไพรเม็ด จากสถาบันคชบาลแห่งชาติ เพื่อช่วยบำรุงสุขภาพช้างป่าตัวดังกล่าว แต่ไม่ประสบความสำเร็จ
และวันนี้ (21 ธันวาคม 2564) เจ้าหน้าที่ลานกางเต็นท์ลำตะคอง แจ้งพบช้างป่าได้รับบาดเจ็บ จากอัตลักษณ์พบว่าเป็น “พลายงาอ้วนเล็ก” ได้รับบาดเจ็บหลายจุดบนร่างกาย ได้แก่ ขาหน้าและขาหลังซ้าย ศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพสัตว์ป่า ดงพญาเย็น-เขาใหญ่ ได้เข้าตรวจสอบหลังรับแจ้ง ไม่พบช้างป่าตัวดังกล่าวแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพสัตว์ป่า ดงพญาเย็น-เขาใหญ่ ได้ประสานเจ้าหน้าที่ฯ หากพบเจอช้างป่าบาดเจ็บทั้งสองตัวให้แจ้งเพื่อทีมสัตวแพทย์จะเข้าประเมินสภาพร่างกายในการรักษาทันที พร้อมทั้งได้ประสานทีมสัตวแพทย์จากกองทุนสัตว์ป่าเขาใหญ่ ในการวางแผนและดำเนินการวางยาซึม เพื่อให้ยารักษาอาการบาดเจ็บของช้างป่าทั้ง 2 ตัว ในวันพรุ่งนี้ (22 ธันวาคม 2564)
หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ กล่าวย้ำว่า เจ้าหน้าที่ฯ กำลังจัดทีมเข้าช่วยเหลืออยู่ครับ แต่ยังหาตัวช้างไม่เจอ เนื่องจากช้างเดินเข้าป่าลึกเพื่อเข้าไปรักษาอาการบาดเจ็บตามสัญชาตญาณ ขณะเดียวกันช้างบาดเจ็บจะระวังตัวสูง และเป็นอันตรายมาก เจ้าหน้าที่จึงต้องระวังตัวด้วยเช่นกัน ส่วนสาเหตุการบาดเจ็บคาดว่ามาจากการต่อสู้กันเอง เนื่องจากขณะนี้เป็นฤดูผสมพันธุ์ที่ช้างตัวผู้จะมีอาการตกมัน