"ของขวัญปี2565" ศธ.จัดเต็มคืนความสุขให้ครู-นักเรียน-ประชาชน
ตรีนุช นำทีมศธ. มอบ "ของขวัญปี2565" ให้แก่ประชาชน พร้อมส่งคืนความสุขให้กับครอบครัว-ดูแลเด็กพื้นที่ห่างไกล-พัฒนากำลังคนอาชีวะ-เสริมสร้างอาชีพ-ให้บริการ Fix it Center รอแถลงรายละเอียด 5 มกราคม 2565
วันที่ 21 ธันวาคม 2564 นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.)เปิดเผยว่า กระทรวงศึกษาธิการได้จัดเตรียมส่งความสุขให้แก่ ครู นักเรียน บุคลากรที่เกี่ยวข้อง ร่วมไปถึงประชาชน ตามนโยบาย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อมอบให้เป็นของขวัญในปี 2565 ที่จะถึงโดยคาราวานของขวัญดังกล่าว จะมุ่งเน้นในเรื่องของความมั่นคง ความมั่งคั่ง และความยั่งยืน เป็นหมุดหมายปลายทางสำคัญของรัฐบาล
นางสาวตรีนุช กล่าวต่อว่า โดยฯพณฯ ท่านนายกรัฐมนตรี มีความมุ่งหวัง และต้องการให้คนไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีความสุข ต้องการสังคมไทยมีความสงบสุข เป็นสังคมของการเอื้อเฟื้อ ช่วยเหลือกัน ต้องการให้ประเทศมีการเติบโต และมีความยั่งยืน ภายใต้การสร้าง และส่งเสริม ทุนมนุษย์ให้มีความแข็งแกร่ง สร้างโอกาสให้คนไทยทุกคนได้รับการศึกษาอย่างทั่วถึง และเท่าเทียม เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ สร้างให้เกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต ตามแนวคิด และเป้าหมายทางการศึกษาที่ไม่ต้องการทิ้งใครไว้ข้างหลัง
รมว.ศธ. กล่าวด้วยว่า ในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา คนไทย และสังคมไทยโดยรวมทั้งประเทศ ต้องประสบกับภาวะสะดุดในการดำรงชีวิต เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ดังนั้น ในวาระที่ก้าวเข้าสู่ปีใหม่ พ.ศ.2565 ที่จะมาถึง รัฐบาลภายใต้การนำของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการ ตนเองและผู้บริหารของกระทรวงศึกษาทุกท่าน จึงขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งมอบความสุขให้กับคนไทย
นอกจากนี้ ยังขอเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุน ส่งเสริมให้สังคมไทย เป็นสังคมที่เปี่ยมไปด้วยความสุข ซึ่งความสุขเหล่านี้ ถือเป็นรากฐานสำคัญต่อการดำรงชีวิตอย่างมีคุณภาพ
นางสาวตรีนุช กล่าวอีกว่า สำหรับ ความสุขเรื่องแรก คือการคืนความสุขให้กับครอบครัว ทั้งนี้ด้วยความห่วงใยของกระทรวงศึกษาธิการ จึงได้เกิดโครงการ “Chance - พาน้องกลับห้องเรียน” เป้าหมายเพื่อค้นหา ติดตาม และนำตัวน้องๆ ที่ตกหล่น หรือต้องออกจากระบบการศึกษากลางคัน
"รวมถึงน้องๆ ที่เป็นผู้พิการ หรือด้อยโอกาสทางการศึกษา โดยเฉพาะในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาอันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เพื่อให้กลับเข้าสู่ระบบการศึกษาให้ได้ทั้งหมด บนพื้นฐานของความเชื่อมั่นว่า ความรู้เป็นองค์ประกอบสำคัญในเสริมสร้างให้คนมีความสุข"น.ส.ตรีนุช กล่าว
นอกจากนี้ ยังรวมถึงการประสานความร่วมมือทุกหน่วยงานหลักของกระทรวงกันอย่างเต็มที่ เพื่อพยายามแก้ไขให้ถึงต้นทางของปัญหาในระดับต่อไป โดยแนวทางปฏิบัติ จะเป็นการผนึกกำลังกันของบุคลากรในหน่วยงานหลักทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ทุกแห่ง
และสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) ทั่วประเทศ สถานศึกษาในสังกัดสำนักงานการอาชีวะศึกษา (สอศ.) เพื่อปฏิบัติภารกิจสำคัญในปี 2565 นี้ โดยจะมีการแถลงข่าวในรายละเอียดอีกครั้งในวันที่ 5 มกราคม 2565
สำหรับน้องๆ ในพื้นที่ห่างไกล พื้นที่ทุรกันดาร และชายแดน ทางกระทรวงศึกษาธิการ โดย กศน.ทุกจังหวัด จะมี “คาราวานความสุข” นำของขวัญไปให้กับน้องๆ ถึงพื้นที่กว่า 46,400 คน ซึ่งมีทั้งของเล่น อุปกรณ์การเรียน อุปกรณ์กีฬา เครื่องนุ่งห่ม ชุดกีฬา ขนม อาหารแห้ง เป็นการสร้างความสุขอย่างทั่วถึงทั้งประเทศ และนับเป็นปีที่ 3 ในการส่งคาราวานสู่พื้นที่
นอกจากนี้ ความสุขที่กระทรวงศึกษาธิการจะส่งมอบเป็นอันดับถัดมา รมว.ศธ. กล่าว่า เป็นความสุขที่มอบให้กับน้องๆ ที่สนใจเข้ารับการศึกษาต่อทางด้านอาชีวศึกษา ในโครงการ “อาชีวะอยู่ประจำ เรียนฟรี มีอาชีพ” โดยสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาจะมอบทุนเรีนฟรีต่อเนื่อง 3 ปี ให้กับน้องๆ ที่เรียนจบมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 5,000 คนทั่วประเทศ
โดยจัดให้มีหอพัก อาหารประจำวันครบ 3 มื้อ ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะอาชีวะคือ หัวใจอันเป็นรากฐานของการสร้างอาชีพ สร้างคุณภาพชีวิต และความเป็นอยู่ที่ดี มีผลต่อการพัฒนาประเทศให้มีความเจริญก้าวหน้า มีการเติบโตทางเศรษฐกิจโดยทางตรง
รมว.ศธ. กล่าต่อว่า สำหรับของขวัญเพื่อความสุขของคนไทยทั้งประเทศ นั้น กระทรวงศึกษาธิการ ได้มีการจัดฝึกช อบรม ภายใต้ศูนย์พัฒนาอาชีพและการเป็นผู้ประกอบการ ประจำจังหวัด 77 ศูนย์ทั่วประเทศ ที่เรียกว่า “ศูนย์ CEC” โดยฝึกอบรมหลักสูตรระยะสั้น (Up-Skill Re-Skill และ New Skill) ตามความสนใจ โดยมีเป้าหมายการฝึกอบรมให้กับประชาชนทุกระดับ 500,000 คน ซึ่งในวันที่ 27 ธันวาคม 2564 นี้ จะมีการเปิดศูนย์ CEC พร้อมกันทั่วประเทศ
นอกจากนี้ ทางกศน. ยังจัดโปรแกรม “กศน. ฝึกอบรมอาชีพ ฟรี 1 สัปดาห์ 1 อำเภอ 1 อาชีพ” ผ่านศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน 928 กลุ่ม ในระหว่างวันที่ 4-10 มกราคม 2565 เพื่อเป็นการฝึกอบรมอาชีพระยะสั้นและ สร้างรายได้ ต่อยอดสู่วิสาหกิจชุมชน ให้กับบุคคลทั่วไปจำนวนมากกว่า 150,000 คน
อีกทั้ง ยังเป็นการยกระดับทักษะด้านอาชีพ และสร้างรายได้ที่เหมาะสมกับการดำรงชีพ ทำให้ทุกครอบครัวมีคุณภาพชีวิตที่ดี และมีความสุข นับเป็นส่วนหนึ่งในการเพิ่มโอกาสการเข้าถึงการศึกษาอย่างมีคุณภาพ
ขณะเดียวกัน เพื่อให้ทุกครอบครัวมีความสุขอย่างต่อเนื่อง ตลอดปี 2565 ทางสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา โดย “ทีมช่างพันธุ์ R อาชีวะจิตอาสา” ทั้ง 100 ศูนย์ Fix it Center ทั่วประเทศ จะออกให้บริการ “ซ่อมฟรี” ถึงบ้าน ตลอดปี 2565 โดยจะมี Application “ช่างอาชีวะ” ที่รองรับการเข้าใช้บริการของประชาชน เพื่อให้น้องๆ นักเรียน นักศึกษา อาชีวะศึกษา ไปให้บริการซ่อมเครื่องยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆ ถึงบ้าน
อีกทั้งเป็นการนำศักยภาพและทักษะฝีมือของน้องๆ อาชีวะมาสร้างประโยชน์แก่สังคม ช่วยลดเวลา ลดค่าใช้จ่าย ผ่านช่องทางที่สะดวกรวดเร็ว รวมถึงมีบริการรับ-ส่งอุปกรณ์ถึงบ้านซึ่งสอดคล้องกับสภาพสังคม และวิถีชีวิตในยุคใหม่ แบบ New Normal
สำหรับผู้ที่มีกำหนดการเดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงปีใหม่ เพื่อร่วมสังสรรค์กับครอบครัวอย่างมีความสุข นั้น รมว.ศธ. กล่าวว่า กระทรวงศึกษาธิการ โดยอาชีวะอาสา ได้จัดทีมงานให้บริการประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ตลอด 24 ชั่วโมง ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2564 จนถึงวันที่ 4 มกราคม 2565 ในบริเวณจุดพักรถ มากกว่า 200 จุด ทั่วประเทศ โดยให้บริการในการ ตรวจสภาพรถยนต์ รถจักรยานยนต์ เพื่อสร้างความปลอดภัยในการเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่นี้
“สุดท้ายนี้เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2565 ที่กำลังจะมาถึง กระทรวงศึกษาธิการ ขอส่งมอบความสุขด้วยหัวใจ ให้กับพี่น้องคนไทยทั้งประเทศ เพื่อสร้างสังคมไทยให้เป็นสังคมที่เปี่ยมสุข เป็นสังคมแห่งความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน” น.ส.ตรีนุช กล่าว