ขาช้อปรู้ยัง สั่งของแล้ว "ไม่ตรงปก" ศาลเปิด "แผนกคดีซื้อของออนไลน์" แล้วนะ
ขาช้อป สั่งซื้อสินค้าทางออนไลน์ หากได้สินค้า "ไม่ตรงปก" ศาลเปิด "แผนกคดีซื้อของออนไลน์" ในศาลแพ่ง ฟ้องเอาผิดกับผู้ขายได้แบบไม่ยากเย็นแล้ว
ตามที่มีประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2564 เรื่องการจัดตั้ง แผนกคดีซื้อของออนไลน์ในศาลแพ่ง นายสรวิศ ลิมปรังษี โฆษกศาลยุติธรรม เปิดเผยว่า ประกาศฉบับนี้มีผลบังคับใช้แล้ว หลังจากที่มีการประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา แต่ แผนกคดีซื้อขายออนไลน์ในศาลแพ่ง จะเริ่มทำการเมื่อใด ต้องรอประกาศของอธิบดีผู้พิพากษาศาลแพ่งอีกครั้ง ถ้าคุณผู้ชมได้รับความเสียหายตอนนี้ก็ให้รวบรวมหลักฐานไว้ให้ครบถ้วนก่อนแล้วรอฟ้องตอนแผนกคดีซื้อขายออนไลน์เปิดทำการในเร็วๆนี้
แต่สำหรับคดีซื้อขายออนไลน์ที่ยังค้างพิจารณาอยู่ในแผนกคดีผู้บริโภคของศาลแพ่ง ก็ให้แผนกคดีผู้บริโภคซึ่งพิจารณาคดีนั้นดำเนินการต่อไปจนเสร็จ
สำหรับเหตุผลที่ศาลยุติธรรมเปิดแผนกคดีซื้อขายออนไลน์ นายสรวิศ กล่าวว่า เนื่องจากทุกวันนี้มีการทำธุรกรรมซื้อขายสินค้าบริการทางออนไลน์เป็นจำนวนมาก ผู้บริโภคที่ได้รับความเสียหาย อย่างเช่นได้ของไม่ตรงปก ไม่มีคุณภาพ ไม่รู้จะไปร้องเรียนเพื่อขอความเป็นธรรมได้จากหน่วยงานไหน คือไม่มีช่องทางกฎหมายที่จะดำเนินคดีเหล่านี้ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว หากจะฟ้องก็ต้องไปฟ้องเป็นคดีแพ่งตามปกติ (ขั้นตอนค่อนข้างยุ่งยากต้องมีการจัดหาทนายความ)
เมื่อมีการจัดตั้งแผนกคดีซื้อขายออนไลน์ จะทำให้ประชาชนผู้บริโภคได้รับความสะดวก มีช่องทางกฎหมายที่สามารถยื่นฟ้องคดีได้ง่ายและรวดเร็วขึ้นผ่านทางอีเล็คทรอนิคส์ไฟล์ลิ่งในหน้าเว็บไซต์ของศาลแพ่ง โดยผู้ฟ้องคดีแค่คลิ๊กเข้าไปสมัครยืนยืนตัวตน กรอกข้อมูลให้ครบถ้วน ฟ้องใคร เรื่องอะไร พร้อมแนบเอกสารหลักฐานการติดต่อซื้อขาย ชื่อเว็ปไซต์ ชื่อร้านค้าที่ซื้อสลิปโอนเงิน เท่าที่จะหาได้ เมื่อยื่นคำฟ้องทาง E-ไฟล์ลิ่งแล้ว จะมีเจ้าพนักงานคดีช่วยตรวจสอบให้ว่าใส่ข้อมูลคดีครบถ้วนแล้วหรือไม่ ถ้าครบถ้วนศาลก็จะรับคดีไว้พิจารณาต่อไป
สำหรับลักษณะคดีที่จะยื่นฟ้องต่อศาลแผนกคดีซื้อขายออนไลน์ อาทิ การสั่งซื้อแล้วได้สินค้าไม่ตรงกับในรูปที่ใช้โฆษณา ซื้อสินค้าแล้วได้สินค้าที่ไม่มีคุณภาพ ไม่มีมาตรฐาน โดยไม่ได้กำหนดทุนทรัพย์ขั้นต่ำหรือขั้นสูงว่ามีจำนวนเท่าใด (คือไม่ได้กำหนดมูลค่าความเสียหาย หลักร้อยหลักพันก็ยื่นฟ้องได้) แต่ไม่รวมไปถึงคดีฉ้อโกง
สำหรับโดยรูปแบบการพิจารณาคดีนั้น ศาลจะใช้ระบบอีเล็คทรอนิคส์เต็มรูปแบบๆ ตอนนี้มีองค์คณะผู้พิพากษารวม 5 องค์คณะทำหน้าที่พิจารณาพิพากษาคดี คือเมื่อผู้ฟ้องยื่นคำฟ้องผ่านทาง E-ไฟลลิ่ง ครบถ้วนแล้ว ศาลดำเนินกระบวนพิจารณาผ่านทางวีดีโอคอนเฟอร์เร้นซ์หรือจอภาพ คดีลักษณะนี้ไม่มีความยุ่งยากซับซ้อน ฝ่ายผู้ฟ้องอาจไม่ต้องมีทนายความ ใช้หลักฐานเท่าที่มีพิสูจน์ให้ศาลเห็นว่าได้รับความเสียหายอย่างไร ส่วนผู้ถูกฟ้องอาจมีทนายความหรือไม่มีทนายความก็ได้เช่นกัน ถ้าไม่มีทนายก็ใช่หลักฐานเท่าที่มีพิสูจน์ว่าไม่ได้กระทำผิด ศาลจะเป็นผู้พิจารณาตัดสินคดีเอง
ทั้งนี้ เมื่อมีการจัดตั้งแผนกคดีซื้อขายออนไลน์ ประชาชนผู้บริโภคที่ได้รับความเสียหายจากการซื้อขายสินค้าทางออนไลน์ สามารถยื่นฟ้องคดีได้ด้วยตนเอง ไม่ว่าเสียหายเท่าใดก็ฟ้องได้ ไม่ต้องมีทนาย ไม่ยุ่งยากไม่ซับซ้อน ทำให้ได้รับความสะดวกในการเข้าถึงความยุติธรรม