ก้าวไกลวอนรัฐบาล กดดันเมียนมาหยุดโจมตี "กะเหรี่ยง KNU" กระทบชายแดนแม่สอด
ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. “ก้าวไกล” จ.ตาก ชี้คนไทยริมชายแดนแม่สอดเดือดร้อนหนัก เหตุการสู้รบระหว่างกองทัพเมียนมากับกองกำลังของชาติพันธุ์กะเหรี่ยง วอนรัฐบาลไทยกดดันเมียนมาหยุดโจมตีทันที
วันนี้ (25 ธ.ค.) นายปรัชญา ปุณหะกิจ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคก้าวไกลเขต 3 จ.ตาก และนายรัชต์พงศ์ สร้อยสุวรรณ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคก้าวไกล เขต 2 จ.ตาก ร่วมเยี่ยมเยียนและประสานให้การช่วยเหลือชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่บริเวณ อ.แม่สอด จ.ตาก ตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา ซึ่งทั้งหมดกำลังได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากการสู้รบ ระหว่างกองกำลังรัฐบาลทหารเมียนมา กับกองกำลังของชาติพันธุ์กะเหรี่ยง (KNU) ที่กำลังเป็นไปอย่างดุเดือดในขณะนี้ ภายใต้ยุทธการที่กองทัพเมียนมา มุ่งหวังยึดฐานเลกิกอของกองกำลังกะเหรี่ยงให้ได้ก่อนปีใหม่นี้
นายปรัชญา ให้ข้อมูลว่า จากที่ตนเองได้เข้าเยี่ยมชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ต.แม่กุ และ ต.แม่ตาว พบว่าหลังจากการสู้รบที่เกิดขึ้นต่อเนื่องหลายวัน มีประชาชนในพื้นที่ฝั่งไทยได้รับผลกระทบเป็นจำนวนมาก บ้านเรือนได้รับความเสียหาย เรือกสวนไร่นาที่ถูกลูกหลงจากระเบิดที่ตกข้ามมาฝั่งไทย และเท่าที่ทราบล่าสุดถือว่ายังเคราะห์ดี ที่ยังไม่มีประชาชนไทยได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อเนื่องในช่วงหลายวันที่ผ่านมา
“สิ่งที่น่ากังวลในตอนนี้ คือพื้นที่สู้รบระหว่างทั้งสองฝ่าย กับชุมชนที่มีชาวบ้านอาศัยอยู่ในฝั่งไทยนั้น โดยส่วนใหญ่ห่างกันเพียงระยะแม่น้ำสาละวินกั้นอยู่ คือเพียง 600 เมตรเท่านั้น และการใช้อาวุธ โดยเฉพาะจากฝั่งกองทัพเมียนมา ที่เน้นอาวุธยิงวิถีโค้งแบบหวังผล ไม่ว่าจะเป็นปืน ค., ปืนใหญ่, เครื่องยิงลูกระเบิดอาร์พีจี, และการใช้เครื่องบินขับไล่ทิ้งระเบิด เนื่องจากเป็นฝ่ายเสียเปรียบในชัยภูมิ ที่เป็นพื้นที่ป่าส่วนใหญ่ จึงทำให้การสู้รบที่ฝั่งเมียนมา มีลูกระเบิดจำนวนหนึ่งตกข้ามมายังฝั่งไทย จนเกิดความเสียหายขึ้นกับทรัพย์สินของประชาชนในฝั่งไทยอย่างที่ได้รายงานไปข้างต้น และจนถึงตอนนี้สถานการณ์ก็ยังไม่สงบลง ขณะที่ผมยืนคุยกับชาวบ้าน ก็ยังได้ยินเสียงปืนและเสียงระเบิดดังเป็นระยะ ๆ” นายปรัชญา ระบุ
นายปรัชญา ยังย้ำว่า สิ่งที่กังวลและเห็นใจประชาชนฝั่งเรา คือชาวบ้านส่วนใหญ่ตอนนี้อยู่กันไม่ได้แล้ว ที่น่าเห็นใจมากคือผู้ป่วยติดเตียงและผู้สูงอายุที่ไม่สะดวกในการเคลื่อนย้ายออกจากพื้นที่ ตอนนี้ชาวบ้านหลายคนอยู่อย่างหวาดระแวง ไม่เป็นอันหลับอันนอน เพราะการยิงกันเกิดขึ้นแทบจะ 24 ชั่วโมง ไม่มีการหยุดพัก ชาวบ้านไม่รู้จะโดนลูกหลงเข้าวันไหน
“ที่ ต.แม่ตาว และ ต.แม่กุนี้ มีระเบิดตกมาโดนบ้านเรือนและไร่นาประชาชนถึง 8 ลูกแล้ว ขณะนี้เท่าที่ทราบยังไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต แต่ตราบที่สถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ต่อไป การสูญเสียของประชาชนในฝั่งไทยอาจจะเกิดขึ้นได้ในเร็ววัน ผมเลยอยากสื่อสารให้รัฐบาลไทยเร่งเข้าทำการพูดคุยกับทางการเมียนมาโดยเร็ว ลดผลกระทบจากการสู้รบที่จะเกิดกับประชาชนในฝั่งไทยให้น้อยที่สุด และในการนี้ผมขอเป็นกำลังใจให้กับทั้งประชาชนที่ต้องอดทนกับสิ่งที่เกิดขึ้น และเจ้าหน้าที่ฝั่งไทยที่ทำงานอย่างหนักมาตลอดหลายวันที่ผ่านมา” นายปรัชญากล่าว
ด้านนายรัชต์พงศ์ ระบุว่าท่ามกลางสถานการณ์สงครามชายแดนฝั่งเมียวดีที่ร้อนระอุ ประชาชนในหลายพื้นที่ใน อ.แม่สอด ไม่ว่าจะเป็น ต.แม่ดาว ต.แม่กุ และ ต.ท่าสายลวด ต่างต้องอยู่ด้วยความขวัญผวาทุกคืน จากเสียงระเบิด-เสียงปืน ที่ดังคับฟ้าตลอดเวลา ซึ่งเป็นที่ชัดเจน ว่าเป็นความพยายามของรัฐบาลเมียนมา ในการกวาดล้างฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง โดยไม่เลือกวิธีการ ไม่คำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนทั้งในฝั่งเมียนมาและฝั่งไทย ไม่เคารพกติกาสากลที่เกี่ยวกับการสงครามและการรักษาชีวิตของพลเรือน
ทั้งนี้ ตนเองขอให้กำลังใจประชาชนและเจ้าหน้าที่ฝั่งไทยที่กำลังได้รับผลกระทบ จากการกระทำของรัฐบาลทหารเมียนมาที่ไม่คำนึงถึงผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นประชาชนของเมียนมา หรือประชาชนของประเทศเพื่อนบ้านอย่างไทย เพียงเพื่อรักษาอำนาจเผด็จการของตนเองเอาไว้ และขอให้กำลังใจชาวเมียนมาทุกกลุ่มชนชาติ ที่กำลังลุกขึ้นสู่กับเผด็จการในขณะนี้ด้วย
“ในฐานะที่พวกเราเป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริมระบอบประชาธิปไตย เราขอประณามการกระทำของรัฐบาลทหารพม่า ในการพุ่งเป้าโจมตีรัฐกระเหรี่ยงในครั้งนี้ และเรียกร้องสันติภาพ เพื่อมิให้เกิดการละเมิดสิทธิมนุษยชนผ่านการก่อสงครามอย่างในปัจจุบัน” นายรัชต์พงศ์กล่าว