"โอไมครอน" สธ.เปิดภาพระบาดรุนแรง อาจติดเชื้อ 30,000 รายต่อวันหลังปีใหม่
สธ.เปิดภาพ "โอไมครอน" ระบาดหนักสุดในประเทศไทย แย่สุดมีอัตราการเสียชีวิตเพิ่มขึ้น เกิดได้แน่หากปชช.ละเลยมาตรการป้องกัน วางแผนเตรียมความพร้อมระบบสาธารณสุขรองรับกรณีระบาดหนักในประเทศ
นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวระหว่างการแถลง สำหรับสถานการณ์โควิด-19 ฉากทัศน์การแพร่ระบาดและการปฏิบัติตัวของประชาชน ว่า สำหรับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้แก่ประชาชน ขณะนี้ถือว่าคืบหน้าไปมาก รัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุข ยังคงเดินหน้าเพื่อที่จะฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้แก่ประชาชนอย่าทั่วถึง เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้แก่ประชาชนอย่างทั่วถึง
ส่วนสถานการณ์การระบาดของ "โอไมครอน" ในประเทศไทยขณะนี้ พบว่า มีผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากต่างประเทศประมาณ 514 ราย โดยบุคคลเหล่านี้จะเดินทางกลับภูมิลำเนา และมีการหลุดรอดไปบ้าง ขอให้ประชาชนระมัดระวังในการเดินทางหรือการพบปะสังสรรค์ ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ประมาณ 90 % มีอาการน้อยมาก
อย่างไรก็ตามมีการคาดการณ์สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 โดยเฉพาะการแพร่ระบาดของ "โอไมครอน" สธ. ได้พิจารณาฉากทัศน์ หรือ สถานการ์ที่คาดการณ์จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยแบ่งออกเป็น 3 ฉากทัศน์คือ
1.สถานการณ์แย่ที่สุด (Worst Case Scenario)
อัตราการแพร่เชื้อเพิ่มขึ้นจากการระบาดของ "โอไมครอน" ในประเทศไทย โดยมีการกำหนดจากอัตราการฉีดวัคซีน ประชาชนไม่ปฏิบัติตามมาตรการ universal Prevention 10 ข้อในขณะนี้ทำกิจกรรมรวมคน สถานประกอบการจัดกิจกรรมโดยไม่ปฏิบัติตาม VUCA จะทำให้สถานการณ์ที่แย่ที่สุด และไทยจะกลับไปสู่ช่วงที่ติดเชื้อเยอะที่สุดคาดการณ์ไว้ที่ประเมณ 30,000-40,000 รายต่อวัน รวมทั้งมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก
2.ฉากทัศน์ที่เป็นไปได้ (Plausible Scenario)
อัตราการแพร่เชื้อเพิ่มขึ้นจากการระบาดของ "โอไมครอน" ในประเทศ โอกาสติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นในช่วงปีใหม่ เสียชีวิต 60-70 ราย โดยจะเกิดขึ้นได้ในกรณีที่มีการฉีดวัคซีนได้ใกล้เคียง ในช่วง พ.ย.-ธ.ค. 64 หรือประมาณ 2-3 ล้านโดสต่อสัปดาห์ ประชาชนยังให้ความร่วมมือ universal Prevention สถานประกอบการ จัดกิจกรรมตามมาตรการ VUCA เป็นอย่างดี ก็จะทำให้เกิดฉากทัศน์ที่ 2 ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ระบบสาธารณสุขยังสามารถรองรับได้
3.ฉากทัศน์ที่ดีที่สุด (Best Case Scenario)
อัตราการแพร่เชื้อของ "โอไมคอรน" ไม่สูงมาก เนื่องจากยังควบคุมการระบาดในไทยในช่วงเดือน ม.ค. 65 โดยทุกหน่วยงายจะต้องเร่งฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนทุกกลุ่ม ได้สูงขึ้น ทั้งเข็ม 1,2, และเข็ม Booster รวมทั้งประชาชนจะต้องให้ความร่วมมือ เต็มที่ ลดกิจกรรมรวมกลุ่มคนจำนวนมาก สถานการประกอบการจัดกิจกรรมปฏิบัติตามมาตรการ VUCA อย่างเคร่งครัด สามารถควบคุมผับบาร์ ได้ดีมาก จึงจะทำให้เกิดฉากทัศน์ที่ดีที่สุด
นพ.เกียรติภูมิ กล่าวต่อว่า สถานการณ์การครองเตียงในปัจจุบันมีเตียงทั้งหมด 178,139 เตียง ขณะนี้ใช้ไป 13 % โดยหากแบ่งเป็น
- เตียงสำหรับรองรับผู้ป่วยสีแดงปัจจุบันมีเตียงอยู่ 4,955 เตียง มีอัตราการครองเตียง 31.6 %
- เตียงสำหรับผู้ป่วยปานกลาง หรือ สีเหลือง ปัจจุบันมีเตียงอยู่ 60,928 เตียง อัตราการครองเตียง 25.6 %
- เตียงสำหรับผู้ป่วยอาการไม่หนัก หรือ ผู้ป่วยสีเขียว ปัจจุบันมีเตียง 112,256 มีอัตราการครองเตียง 6.4 %
หากมีอาการไม่มากสามารถกักตัวที่บ้าน หรือชุมชนได้ โดยโรงพยาบาลจะมีการจ่ายยา อุปกรณ์ดูแลตัวเองให้แก่ผู้ติดเชื้อในระดับสีเขียว