เร่งซ่อมบ้าน ที่ อ. พบพระ หลัง "กระสุนปืน" สู้รบฝั่งเมียนมา ตกใส่หลังคาบ้าน
เจ้าหน้าที่จะให้การดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของราษฎรชาวไทยอย่างดีที่สุด และเพื่อความปลอดภัย ได้ให้ราษฎรทำหลุมหลบภัย ในพื้นที่ไว้
วันนี้ ( 27 ธ.ค.64) พลตรีประสาน แสงศิริรักษ์ ผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร พร้อมด้วยพันเอกณรงค์ชัย เจริญชัย ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 14 ลงพื้นที่ มอบสิ่งของปลอบขวัญแก่ ครอบครัว ของนางสาวสุนีย์ อาชาสุขสันต์ บ้านเลขที่ 155/1 หมู่ 5 ตำบลพบพระ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก ที่ได้รับผลกระทบถูกกระสุนปืนตกใส่หลังคาบ้าน จนหลังคาและฝ้า ได้รับความเสียหาย ซึ่งไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ทหารจะเร่งเข้าซ่อมแซมบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหาย โดยเริ่มในวันนี้ ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือต่อไป
พลตรีประสาน แสงศิริรักษ์ ผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร กล่าวว่า สำหรับประเทศไทยเราไม่ใช่คู่ขัดแย้ง ซึ่งการสู้รบเป็นปัญหาภายในของประเทศเมียนมา หากมีกระสุนปืนตกลงมายังฝั่งไทย เรามีมาตรการการแจ้งเตือน โดยการใช้กระสุนควันก่อน พร้อมประท้วงผ่านช่องทาง หรือ ทีบีซี และตอบโต้ จากเบาไปหาหนัก กรณีที่มีกระสุนตกลงมายังฝั่งไทย
นอกจากนี้จะดูแลความปลอดภัยทั้งชีวิตและทรัพย์สินของราษฎรชาวไทยอย่างดีที่สุด พร้อมให้การดูแลผู้หนีภัยจากความไม่สงบชาวเมียนมา ที่พักในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว ทั้งอำเภอแม่สอดและอำเภอแม่สอด จำนวนประมาณ 4,788 คน ตามหลักสิทธิมนุษยชน
หน้าที่ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร ได้ร่วมกับฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการดูแลชีวิตและทรัพย์สินของราษฏรชาวไทย ซึ่งถือเป็นงานหลักของฝ่ายทหารอยู่แล้ว ในการป้องกันอธิปไตย และดูแลความปลอดภัยสำหรับราษฏรไทย ซึ่งได้พูดคุยกับทางผู้ใหญ่บ้าน บ้านหมื่นฤาชัย หมู่ 5 ตำบลพบพระ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก เพื่อความปลอดภัย ได้ให้ราษฎรทำหลุมหลบภัย ในพื้นที่ไว้ ซึ่งพบว่าราษฎรบางส่วนได้ทำไว้อยู่แล้ว แต่ก็อยากให้ทำไว้ทุกหลังคาเรือน เพื่อความปลอดภัยในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน
ซึ่งกรณีหากว่า รู้ล่วงหน้า หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก็จะขยับคนไทย ไปยังพื้นที่ที่เราเตรียมไว้ ห่างจากหมู่บ้านไป เพื่อความปลอดภัย ซึ่งเจ้าหน้าที่จะให้การดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของราษฎรชาวไทยอย่างดีที่สุด ในทุกพื้นที่
ส่วนผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา โดยเฉพาะในพื้นที่หมู่บ้านทิบาโบ พื้นที่ตรงข้ามอำเภอพบพระ จังหวัดตาก พบว่าราษฎรชาวเมียนมาส่วนใหญ่ จะอาศัยอยู่ในพื้นที่บริเวณริมแม่น้ำเมย ประมาณ 350 คน เตรียมที่จะข้ามมายังฝั่งไทย ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวยังคงมีความปลอดภัยอยู่
ที่ผ่านมา ฝ่ายไทยได้มีการส่งสิ่งของมอบช่วยเหลือตามหลักสิทธิมนุษยชน มีการประสานงาน ระหว่างผู้ใหญ่บ้านทั้งสองฝั่ง โดยหากไม่มีเหตุการณ์ใดๆ ที่ส่งผลกระทบ ก็อยากให้พักคอยอยู่ในฝั่งเมียนมาก่อน แต่ถ้าหากเกิดเหตุการณ์ในพื้นที่ ก็สามารถเข้ามาในพื้นที่ปลอดภัยในฝั่งไทยได้ ซึ่งได้มีการเตรียมพื้นที่ไว้แล้ว
ในส่วนของผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมาที่อยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว ทั้งอำเภอแม่สอดและอำเภอพบพระ รวมประมาณ 4,788 คน เราก็ดูแลตามหลักมนุษยธรรมสากล มีหน่วยงานต่างๆ ดูแล โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารเป็นหน่วยหลัก การรับสิ่งของช่วยเหลือมีศูนย์สั่งการชายแดนจังหวัดตาก การเป็นหน่วยหลัก มอบหมายให้ทางอำเภอแม่สอดและอำเภอพบพระ เป็นผู้กำกับดูแล
ภาพ/ข่าว ไพฑูรย์ สุขแว่น ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.ตาก