เปิดเส้นทาง "ไทย-อินโดนีเซีย" คู่ชิง เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ
ศึก "เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020" รอบชิงชนะเลิศ คู่ระหว่าง "ทีมชาติไทย" พบกับ "ทีมชาติอินโดนีเซีย" ซึ่ง "คมชัดลึก" ขอย้อนเส้นทาง "ไทย-อินโดนีเซีย" ก่อนทะลุเข้าดวลกันในเกมแรก วันพุธ นี้
การแข่งขันฟุตบอล ศึกชิงแชมป์อาเซียน "เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2020" รอบชิงชนะเลิศ นัดแรก ระหว่าง "ทีมชาติไทย" พบ "อินโดนีเซีย" โดยจะแข่งขันสองนัดในวันที่ 29 ธันวาคม 2564 และ 1 มกราคม 2565
โดย เริ่มกันที่ "ทีมชาติอินโดนีเซีย" ของ "ชิน แต ยัง" กุนซือชาวเกาหลีใต้ อยู่ร่วมใน กลุ่ม B ประกอบไปด้วย เวียดนาม , มาเลเซีย , สิงคโปร์ , ลาว และ กัมพูชา
ซึ่ง อินโดนีเซีย ทำผลงานในรอบแบ่งกลุ่มด้วยการ ชนะ กัมพูชา 4-2 , ชนะ ลาว 5-1 , เสมอ เวียดนาม 0-0 และ ปิดท้ายด้วยการชนะ มาเลเซีย 4-1 รวมชนะ 3 เสมอ 1 เก็บ 10 คะแนน คว้าแชมป์กลุ่ม B ไปครอง ก่อนที่ในรอบรองชนะเลิศจะ พบกับรองแชมป์กลุ่มของกลุ่ม A และสามารถเอาชนะ สิงคโปร์ เจ้าภาพไปได้ คือ เกมแรกเสมอ 1-1 และ ผลงานเกมสอง ต่อเวลาพิเศษชนะ 4-2 รวมผลสองนัดอินโดนีเซีย ชนะสิงคโปร์ ไปด้วยสกอร์ 5-3 โดยมีดาวซัลโวประจำทีมอย่าง "อิฟาน สมาลิ่ง คูมี่" กองกลางตัวรุกของทีม จากสโมสร พีเอสเอส สเลมาน ในลีกสูงสุดของ อินโดนีเซีย ที่ทำประตูมากที่สุด 3 ประตูในทัวนาเมนต์นี้
สำหรับ ทีมชาติอินโดนีเซีย สามารถผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ เป็นครั้งที่ 6 หลังจากเคยเข้าชิงเมื่อปี 2000 , 2002 , 2004 , 2010 และ 2016
ต่อมาสำหรับ "ช้างศึก" ทีมชาติไทย ของ 'มาโน่ โพลกิ้ง' หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ชาวบราซิเลี่ยน ถูกจัดให้อยู่ในสาย A ประกอบไปด้วย สิงคโปร์ , เมียนมา , ฟิลิปปินส์ และ ติมอร์ เลสเต
ซึ่งทีมชาติไทยทำผลงานรอบแบ่งกลุ่ม ด้วยการ ชนะ ติมอร์ เลสเต 2-0 , ชนะ เมียนมา 4-0 , ชนะ ฟิลิปปินส์ 2-1 และ ชนะ สิงคโปร์ 2-0 เก็บชัย 4 เกมรวดของรอบแบ่งกลุ่ม มี 12 คะเเนน คว้าแชมป์กลุ่ม โดยรอบรองชนะเลิศ พบกับ ที่ 2 ของกลุ่ม B ก่อนเป็น ทีมชาติไทยทำผลงาน ชนะเวียดนามในเกมแรก 2-0 และ เสมอในเกมสอง 0-0 รวมผลให้ไทยชนะเวียดนามรวมสกอร์ 2-0 โดยซัลโวประจำทีมชาติไทย เป็น ธีรศิลป์ แดงดา กองหน้าจากสโมสร บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่ทำประตูรวม 4 ประตู ขึ้นนำดาวซัลโวในรายการ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020
ทั้งนี้ "ทีมชาติไทย" ถือเป็นทีมชาติที่ผ่านเข้าสู่ รอบชิงชนะเลิศในศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน มากที่สุดในประวัติศาสตร์ จำนวน 9 ครั้ง ในการแข่งขัน และ คว้าแชมป์รายการนี้มาแล้ว 5 สมัย อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม สำหรับ "ทีมชาติไทย" จะพบกับ "อินโดนีเซีย" ใน รอบชิงชนะเลิศของศึก "ชิงแชมป์อาเซียน 2020" โดยจะแข่งขันสองนัดในวันที่ 29 ธันวาคม 2564 และ 1 มกราคม 2565
CREDIT PHOTO : Twitter@ThailandNTOFFICIAL , newsbeezer , thestar , bola , goodnewsfromindonesia , thaileaguecentral