ข่าว

HOW TO ใช้รถทัวร์-เครื่องบินอย่างไรให้ปลอดภัยลดเสี่ยงติด "โอไมครอน"

HOW TO ใช้รถทัวร์-เครื่องบินอย่างไรให้ปลอดภัยลดเสี่ยงติด "โอไมครอน"

28 ธ.ค. 2564

วิธีใช้ รถทัวร์-เครื่องบิน ช่วงเทศกาลให้รอดปลอดภัยจาก "โอไมครอน" แนะลดสัมผัส-งดกินอาหาร-ประเมินตนเองก่อนออกเดินทางทุกครั้ง

อัปเดตสถานการณ์การแพร่ระบาดของ "โอไมครอน" ที่กำลังระบาดอยู่ขณะนี้ และมีแนวโน้มจะระบาดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและในช่วงเทศกาลเฉลิมเฉลิมปีใหม่แบบนี้ หลายฝ่ายกำลังให้ความกังวลว่า "โอไมครอน" จะเกิดการปะทุมากยิ่งขึ้น เนื่องจากมีการเดินทางไปมาหาสู่ครอบครัวในต่างจังหวัก หรือเดินทางออกไปเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นทั้งการเดินทางโดยรถทัวร์ หรือ เดินทางโดยเครื่องบิน วันนี้ "คมชัดลึกออนไลน์" รวมวิธีการเดินทางโดยรถสาธารณะ และเครื่องบินให้ปลอดภัยจาก "โอไมครอน" มาฝาก โดยก่อนออกเดินทางประชาชนสามารถปฏิบัติตัวได้ง่าย ๆ ดังนี้ 

  • ก่อนออกเดินทางประเมินความเสี่ยงตนเองผ่านไทยเซฟไทย ของกรมอนามัยเพื่อตรวจสอบก่อนว่าเรามีความเสี่ยงหรือไม่ คลิกตรวจสอบความเสี่ยงผ่านไทยเซฟไทย คลิกที่นี่
  • ตรวจ ATK ก่อนเดินทาง  72 ชั่วโมง หรือก่อนจะขึ้นรถทัวร์ หรือเครื่องบิน หากพบว่าผลเป็นลบจึงเดินทางตามแผนที่วางไว้ หากผลออกมาเป็นบวกจะต้องทำการตรวจหาเชื้อซ้ำด้วยวิธี RT-PCT ทันที 
  • หรือหากมีอาการไข้ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ไอ อ่อนเพลียควรงดเดินทางทุกกรณีและเข้ารับการตรวจหาเชื้อทันที 
  • ประชาชนที่จะเดินทางควรรับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบ 2 เข็ม 
     

วิธีปฏิบัติตัวขณะใช้รถโดยสารธารณะสามารถทำได้ ดังนี้ 

  • สวมหน้ากากอนามัยตลอดระยะเวลาการเดินทาง
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสตามจุดต่าง ๆ บันไดเลื่อน ราวบันได หรือหากสัมผัสแล้วควรล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ทันที 
  • หากมีผู้โดยสารที่นั่งรถร่วมกัน เกิดอาการ ไอ หรือจาม พยายามออกห่าง หรือหันหน้าไปทางอื่นแทน
  • หลีกเลี่ยงการแตะหรือสัมผัสบริเวณใบหน้า ไม่ว่าจะกำลังโดยสารรถสาธารณะอยู่หรือไม่ก็ตาม
  • ระหว่างใช้บริการขนส่งสาธารณะ ไม่ควรรับประทานอาหารหรือดื่มน้ำ เนื่องจากมีโอกาสสูงที่จะได้รับเชื้อโรค
  • Social Distancing เว้นระยะห่างจากคนข้างๆ นั่ง หรือยืน ในสัญลักษณ์ที่จัดไว้
  • ล้างมือด้วยเจลกอฮอล์บ่อย ๆ เพื่อทำความสะอาดมือ
  • เมื่อเดินทางถึงจังหวัดปลายทางต้องแสกน QR Code แอปฯไทยชนะทุกครั้ง หากกรณีที่เที่ยวโดยสายเรามีผู้ติดเชื้อโควิด -19 จะได้รับการแจ้งเตือนทันที 
     

การปฏิบัติตัวขณะใช้เครื่องบินสามารถทำได้ดังนี้ 

 

  • เช็คอินผ่านเว็บไซต์,  โมบาย App หรือ  Kiosk  เพื่อลดการสัมผัสระหว่างผู้โดยสารกับพนักงานให้บริการภาคพื้นดิน
  • สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา และควรเตรียมเจลแอลกอฮอร์ขนาดไม่เกิน  100  มิลลิลิตรพกติดตัวไว้ตลอดการเดินทาง
  • สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา 
  • ล้างมือทันทีหรือใช้เจลแอลกอฮอร์  เมื่อมีการสัมผัสกับพื้นผิวต่างๆ
  • ระหว่างนั่งรอควรรักษาระยะห่าง และหลีกเลี่ยงนั่งในจุดที่มีคนเป็นจำนวนมาก  
  • ควรรับประทานอาหารและเครื่องดื่มให้เสร็จเรียบร้อยก่อนขึ้นเครื่อง   เพราะสายการบินจะงดให้บริการจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง 
  • ก่อนขึ้นเครื่องทุกคนจะได้รับการตรวจวัดอุณหภูมิที่ประตูขึ้นเครื่อง  ทั้งนี้ หากพบว่ามีอุณหภูมิร่างกายเกิน 37.3 องศาเซลเซียส   มีอาการไอ  จาม  หรือเข้าข่ายผู้ต้องเฝ้าระวัง  สายการบินจะปฏิเสธการเดินทาง
  •  
  • ไม่ปิดระบบปรับอากาศด้านเหนือศีรษะ  เพื่อให้มีอากาศถ่ายเทอยู่เสมอ   หากรู้สึกหนาวให้ปรับทิศทางลมไม่ให้โดนที่ร่างกายโดยตรง 
  • สายการบินจะเว้นระยะห่างผู้โดยสารบนเครื่อง  เเบบที่นั่งเว้นที่นั่ง  
  • ไม่อนุญาตให้รับประทานอาหารเเละเครื่องดื่มระหว่างอยู่บนเครื่อง 
  • สายการบินมีมาตรการทำความสะอาดเเละฆ่าเชื้อภายในเครื่องบิน  ตามมาตรฐานเป็นประจำทุกวัน  ด้วยการพ่นและอบสเปรย์ฆ่าเชื้อ
  • เมื่อเดินทางถึงจังหวัดปลายทางต้องแสกน QR Code แอปฯไทยชนะทุกครั้ง หากกรณีที่เที่ยวโดยสายเรามีผู้ติดเชื้อโควิด -19 จะได้รับการแจ้งเตือนทันที

 

ขณะที่ รศ.นพ.ธีระ  วรธนารัตน์ คณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระบุถึงแนวทางการใช้รถโดยสารสาธารณะ เพื่อให้ปลอดภัยจาก "โอไมครอน"  ดังนี้ 

การเดินทางขนส่งสาธารณะ รัฐควรจัดบริการดังนี้
1.ตรวจ ATK ให้แก่พนักงานประจำรถ/รถไฟ/เครื่องบิน และประชาชนที่จะเข้าใช้บริการเดินทาง
2. แจกหน้ากากอนามัยทางการแพทย์แก่ประชาชนที่ไม่มีหรือมีแต่หน้ากากผ้า และให้สวมให้ถูกต้องต่อหน้าพนักงานประจำรถ/รถไฟ/เครื่องบิน ก่อนเดินทาง
3.แนะนำให้เลี่ยงการกินดื่มทุกชนิดระหว่างเดินทาง
4.แนะนำให้ระมัดระวังเรื่องการใช้สุขา ล้างมือเสมอทั้งก่อนและหลังใช้สุขา และใส่หน้ากากเสมอ
5. แนะนำให้เลี่ยงการพูดคุยที่ไม่จำเป็น
6. แนะนำให้สังเกตอาการผิดปกติหลังจากเดินทางถึงที่หมาย หากไม่สบายคล้ายหวัด ให้นึกถึงโควิดและรีบไปตรวจ
หากไม่จำเป็น ควรเลี่ยงการเดินทางขนส่งสาธารณะ ไปเท่าที่จำเป็นจริงๆ และหากดูแล้วคนเยอะ แออัด ไม่ควรเสี่ยงเลยครับ