บช.ก. เปิดยุทธการ "สอบสวนกลาง ปราบแก๊งโกงกู้" จับ 14 ผู้ต้องหา ยึดของกลางอื้อ
บช.ก. สนธิกำลังกว่า 100 นาย เปิดยุทธการ "สอบสวนกลาง ปราบแก๊งโกงกู้" จับกุมผู้ต้องหา 14 ราย ยึดของกลางอีกจำนวนมาก
28 ธ.ค.2564 จากสถานการณ์การระบาดของเชื้อโควิด -19 ส่งผลกระทบต่อสภาพเศรษฐกิจ ประชาชนขาดสภาพคล่อง และเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ยาก ประกอบกับที่ผ่านมาประสบปัญหาจากหนี้นอกระบบ ในรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นแก๊งหมวกกันน็อค, แอปเงินกู้เถื่อนผิดกฎหมาย ฯลฯ รัฐบาลจึงมีนโยบายให้ธนาคารพาณิชย์ออกมาตรการที่ส่งเสริมให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น ต่อมาธนาคารพาณิชย์ต่าง ๆ ได้ออกผลิตภัณฑ์ให้สินเชื่อในรูปแบบออนไลน์ ประชาชนสามารถขอสินเชื่อผ่านสมาร์ทโฟนได้ตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด ซึ่งหากเอกสารครบถ้วนตามหลักเกณฑ์จะได้รับการอนุมัติสินเชื่อภายใน 30 นาที ทำให้ประชาชนได้รับอนุมัติวงเงินกู้เร็วขึ้น เพื่อเป็นการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบในรูปแบบต่าง ๆ ต่อมากลุ่มมิจฉาชีพ เห็นช่องโอกาสจากมาตรการดังกล่าว จึงหลอกลวงประชาชนที่ขาดรายได้และต้องการเข้าถึงแหล่งทุน โดยออกกลอุบายชักชวนว่าสามารถหาแหล่งเงินทุนให้ได้ เพียงแค่นำบัตรประชาชนใบเดียวมาให้ ก็สามารถกู้เงินได้
พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) สั่งการให้ พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ. และ พ.ต.อ.ภาดล จันทร์ดอน ผกก.5 บก.ปอศ. ดำเนินการสืบสวนสอบสวนเรื่องนี้เป็นกรณีเร่งด่วน เนื่องจากมีประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับกลุ่มคนร้าย จากการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ทำให้ทราบเครือข่ายผู้ที่ร่วมกระทำความผิดในคดีนี้ จนนำไปสู่การขออนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหาจำนวน 14 ราย
โดยเมื่อช่วงเช้าวันนี้ ตำรวจสอบสวนกลาง โดยกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ร่วมกับ กองบังคับการปราบปราม และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ได้ร่วมกันปิดล้อมตรวจค้น จับกุมผู้ต้องหาในคดีนี้ จำนวน 10 จุด ในพื้นที่ กบินทร์บุรี, ปราจีนบุรี, พัทยา, สระแก้ว, นครราชสีมา, สมุทรสงคราม และฉะเชิงเทรา ใช้กำลังเจ้าหน้าที่ปฏิบัติกว่า 100 นาย ภายใต้ยุทธการ “สอบสวนกลาง ปราบแก๊งโกงกู้” จับกุมผู้กระทำความผิดเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ 14 ราย ดังนี้
นางสาวณัฐกฤตา สุดสน อายุ 46 ปี , นางสาวพรพรรณ ลำพา อายุ 38 ปี , นายวิโรจน์ เลิศกิจลักษณ์ อายุ 50 ปี , นางสาวคฑามาส กิ่งเงิน อายุ 22 ปี , นายศราวุธ เผ่านักรบ อายุ 28 ปี ,นายจักรณรงค์ พลทะรักษา อายุ 35 ปี , นายยศวริศ เลิศกิจลักษณ์ อายุ 23 ปี ,นางสาวชุติกาญจน์ เลิศกิจลักษณ์ อายุ 24 ปี , นางสาวกมลทรรศน์ คำโสดดา อายุ 31 ปี , นายก้องเกียรติ ทาชมภู อายุ 24 ปี , นางศศิธร พลทะรักษา อายุ 35 ปี , นางสาวพวงเพ็ญ ลำพา อายุ 40 ปี ,น.ส.สุพัตรา สุริยาอายุ 31 ปี และ นางสาวศิริลาวัลย์ พึ่งเกษม อายุ 32 ปี
ตรวจยึดของกลาง ประกอบด้วย บัญชีธนาคาร 65 รายการ , โทรศัพท์มือถือ 78 เครื่อง, เอกสารเกี่ยวกับการทำธุรกรรม 16 รายการ , เอกสารเกี่ยวกับคดี 14 รายการ , บัตรอิเล็กทรอนิกส์ 9 ใบ , อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ 1 รายการ , ของกลางอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง 207 รายการ รวมมูลค่ากว่า 2,383,600 บาท
เบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้ง 13 คน ยอมรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง และยังไม่เคยถูกจับกุมมาก่อน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ 13 ราย ปฏิเสธ 1 ราย
ตำรวจสอบสวนกลาง จึงขอประชาสัมพันธ์เตือนภัยไปยังพี่น้องประชาชน อย่าหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อกลุ่มมิจฉาชีพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งขอให้ระมัดระวังในการใช้บัตรประชาชนซึ่งเป็นเอกสารสำคัญทางราชการ คนร้ายอาจนำไปใช้ในการก่ออาชญากรรมรูปแบบต่าง ๆ ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อเจ้าของบัตรได้ และขอฝากพิจารณาให้รอบคอบว่าไม่มีสิ่งใดที่จะได้มาโดยง่ายเกินกว่าความเป็นจริงที่ควรจะเป็น ในกรณีที่ท่านประสงค์จะกู้เงิน แต่ไม่สามารถดำเนินการเองได้ ขอให้ติดต่อธนาคารสาขาใกล้บ้านท่านได้โดยตรง ไม่จำเป็นต้องผ่านตัวกลางหรือนายหน้าแต่อย่างใด