น้าฉ่วยอวยมาโน่ฯ พา "ทีมชาติไทย" คั่วแชมป์
"น้าฉ่วย" สมชาย ชวยบุญชุม หัวหน้าผู้ฝึกสอนของทีม "ตราด เอฟซี" จ่าฝูงไทยลีก 2 ให้ความเห็น ทัพช้างศึก ทีมชาติไทย มีความมั่นใจและศักยภาพของทีมที่ดีในเวลานี้ หลังเอาชนะ อินโดนีเซีย ในรอบชิงฯ มาได้ 4-0 และเชื่อว่าจะพัฒนาจากนักฟุตบอลในชุดนี้ต่อไปได้ดีในอนาคต
การแข่งขันฟุตบอล "ชิงแชมป์อาเซียน เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 (AFF Suzuki Cup 2020)" รอบชิงชนะเลิศ เลกแรก ระหว่าง "ทีมชาติอินโดนีเซีย" พบกับ "ทีมชาติไทย" ที่สนามกีฬาแห่งชาติประเทศสิงคโปร์ ก่อนเป็น ทีมชาติไทย เก็บชัยชนะต่อ ทีมชาติอินโดนีเซีย ไปได้ก่อนในเกมเลกแรก ด้วยสกอร์ 4-0 ได้ประตูจาก ชนาธิป สรงกระสินธ์ นาที 2 กับ 51 , สุภโชค สารชาติ นาที 67 และ บดินทร์ ผาลา นาที 83 ของเกม
โดย "คมชัดลึก" ได้สอบถามความเห็นไปยัง อดีตโค้ชทีมชาติไทย ยู-19 ที่เคยนำทีมชาติไทยชุดเยาวชนคว้าแชมป์ฟุตบอลอาเซียน อย่าง "น้าฉ่วย" ซึ่งปัจจุบัน ทำหน้าที่หัวหน้าผู้ฝึกสอนของทีม ตราด เอฟซี หรือ ช้างขาวเจ้าเกาะ จ่าฝูงของศึก ไทยลีก 2 ได้ให้ความเห็นหลังเกม ทีมชาติไทย พบกับ ทีมชาติอินโดนีเซีย ในเกมเลกแรก โดยกล่าวว่า " ทีมชาติไทย ชนะ อินโดนีเซีย 4-0 ถือเป็นเกมที่ไหลลื่นของเรา ซึ่งทีมชาติไทยทำตามเป้าหมายในเกมแรกไว้ได้ ทั้งการต่อบอล การเคลื่อนที่ การให้บอลเท้าสู่เท้า การเล่นเกมรับและเกมรุก และการเล่นลูกสวนกลับได้ดี ที่เห็นได้ชัดเจนกว่า อินโดฯ ที่เน้นการตั้งรับและสร้างโอกาสจบได้น้อย
รวมถึงทีมชาติไทย ได้ เจ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ไที่สร้างความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดทั้งการพาบอลและการยิงประตูในกรอบเขตโทษได้ดี ไม่เพียงแต่ เจ ชนาธิป เท่านั้น แต่ทีมชาติไทยชุดนี้ยังมีนักเตะที่พัฒนาให้กับทีม อย่างที่เราสามารถเห็นได้จากเกมก่อน ๆ อาทิเช่น ธีราทร บุญมาทัน หรือ ธีรศิลป์ แดงดา ที่สามารถนำประสบการณ์มาปรับใช้กับทีมชาติไทยและนักเตะในทีมได้ดี "
ทั้งนี้ สมชาย ชวยบุญชุม กล่าวถึง มาโน่ ผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย " สำหรับ มาโน่ โพลกิ้ง ถือเป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญของทีมชาติไทยในชุดนี้ ที่มีประสบการณ์การคุมทีม ซึ่งเขาสามารถแก้เกมได้ในสถานการณ์ของทีม รวมถึงการที่เลือกใช้นักเตะ และ การหมุนเวียนนักเตะให้ได้ลงสนามกันแม้ ทีมจะนำขาดก็ตาม แม้ว่าในเกมแรกของเรากับ ติมอร์ เลสเต ยังเปิดฉากได้ไม่ดี แต่ถือเป็นการปรับจูน ให้ทีมเริ่มลงตัวมากขึ้น ซึ่งคิดว่า มาโน่ ทำผลงานได้ดีในเวทีนี้ โดยตลอดทัวนาเมนต์ เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ ในครั้งนี้ ต้องขอบคุณทุกฝ่ายที่ช่วยกันให้ผลงานของ ไทย ขยับกลับขึ้นมากับการเข้าใกล้เจ้าอาเซียนในปีนี้ ทั้ง สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศ , มาดามแป้ง นวลพรรณ ล่ำซำ ที่ร่วมให้กำลังทีมมาตลอด และทุกคนที่เกี่ยวข้อง "
สำหรับ "น้าฉ่วย" ได้ปิดท้ายถึงเกมนัดสอง ไทย-อินโดฯ " ยังเชื่อว่าทีมชาติไทยจะรักษารูปเกมและระบบของเกมเหมือนในเกมแรกไว้ได้และสร้างความมั่นใจกับแชมป์รายการนี้เพื่อต่อยอดในการเล่นของระดับทีมชาติต่อไป "
อย่างไรก็ตามโปรแกรม "ทีมชาติไทย" จะพบกับ "ทีมชาติอินโดนีเซีย" ในรอบชิงชนะเลิศของ ศึก ชิงแชมป์อาเซียน เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ นัดที่ 2 จะแข่งขันในวันเสาร์ที่ 1 มกราคม 2565 เวลา 19.30 น. ตามเวลาไทย
CREDIT PHOTO : Facebook@ThailandNTOFFICIAL