ตร.ถกทีมสืบเร่งล่า "อาชีวะ" ยกพวกบุกยิงถล่มอริ ดับ 1 เจ็บ 2
"ผบก.น. 9" ประชุมฝ่ายสืบสวน เร่งรัดคดี นร. "อาชีวะ" ยกพวกยิงถล่มตาย 1 แบ่งงาน 3 ส่วนเร่งหาตัวผู้ก่อเหตุ คาดมีปัญหากันมาก่อน ล่าสุดคุมตัวผู้ก่อเหตุได้ 4 คนแล้ว
จากกรณี นักเรียนอาชีวะ เปิดศึกยิงถล่ม ตาย 1 เจ็บ 2 ราย ล่าสุด พล.ต.ต.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 9 เรียกประชุมตำรวจฝ่ายสืบสวน เพื่อคลี่คลายคดี พร้อมกับเปิดเผยก่อนประชุมว่า วันนี้เรียกประชุมเพื่อแบ่งกำลังออกทำงานเป็น 3 ส่วน เพื่อร่วมกันคลี่คลายคดีและทำการรวบรวมพยานหลักฐานตามกระบวนการของกฎหมาย โดยแบ่งงานออกเป็น ฝ่ายสืบสวนสน. แสมดำ ตำรวจฝ่ายสืบสวนของกองบังคับการตำรวจนครบาล 9 และฝ่ายสืบสวนนครบาล
"สาเหตุ เกิดจากกรณีของเด็กนักเรียนอาชีวะ 2 สถาบันซึ่งมีความเป็นไปได้ว่ามีปัญหาทะเลาะวิวาทมาก่อนแล้ว เมื่อมาเจอหน้ากัน มีการท้าทายเกิดขึ้น จึงใช้อาวุธปืนติดตัวมายิงใส่กัน จนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว และที่สำคัญมีประชาชนทั่วไปซึ่งทำมาหากินอยู่ในพื้นที่ได้รับบาดเจ็บด้วย เราสามารถพิสูจน์ตัวบุคคล ได้แล้วบางส่วน ล่าสุดสามารถคุมตัวผู้ก่อเหตุได้รวม 4 คน เป็นเยาวชน 16 ปี 3 คน และอายุ 18 ปี 1 คน ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างการ ติดตามตัว"
พล.ต.ต.พงศ์อานันต์ ฝากเตือนไปยังกลุ่มนักเรียน นักศึกษา วัยรุ่น อาชีวะ ว่าควรทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด มีหน้าที่เรียนหนังสือก็ต้องเรียนหนังสือ อย่ามาสร้างความเดือดร้อนในลักษณะนี้อีก เพราะการกระทำดังกล่าว ส่งผลกระทบในวงกว้าง ทั้งอนาคตของตัวเอง สร้างความเดือดร้อนให้กับครอบครัว สังคมรอบข้างตำรวจจำเป็นต้องดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ไม่มีการละเว้น ถึงแม้จะเป็นแค่เยาวชนอายุเพิ่งจะ 16 ปีก็ตาม และกรณีนี้หากผลการสืบสวนพบว่า พ่อแม่ผู้ปกครอง ขาดการดูแลเอาใจใส่ ไม่ควบคุมดูแลบุตรหลาน ก็จำเป็นต้องดำเนินคดีตามกฎหมายด้วยเช่นกัน
“สำหรับเด็กปั๊มเหยื่อถูกลูกหลง ได้รับบาดเจ็บ ได้มอบหมายให้ ผกก.สน.แสมดำ ลงพื้นที่ไปดูแลให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นแล้ว ส่วนสิทธิประโยชน์ตามกฎหมาย หลังตกเป็นเหยื่อในคดีอาชญากรรม ซึ่งกรมคุ้มครองสิทธิจะต้องเข้าไปดูแลเยียวยาต่อไป”
พล.ต.ต.พงศ์อานันต์ ระบุอีกว่า มาตราการป้องกันเหตุ นักเรียนยกพวกตีกันในพื้นที่ นครบาล 9 ทำมาตลอด มีทุกยุคทุกสมัย ขอยืนยันว่าตำรวจไม่ได้ละเลย มีทั้งชุดเคลื่อนที่เร็ว สายตรวจเดินเท้า สายตรวจรถยนต์ และชุดระงับเหตุเร่งด่วน นอกจากนี้ยังจัดชุดตำรวจชุมชนสัมพันธ์เข้าไปพูดคุยเจรจา ทำความเข้าใจ กับสถาบันการศึกษา ซึ่งหาก ขาดมาตรการดังกล่าวเหล่านี้ เหตุการณ์ ในลักษณะนี้ จะเกิดขึ้น ไม่เว้นแต่ละวัน และ ความสูญเสีย อาจเยอะกว่าที่เป็นอยู่ ดังนั้นอยากให้ทุกฝ่าย เห็นใจตำรวจด้วย