"7 วัน อันตราย" ปีใหม่ 2565 วันที่ 2 เสียชีวิตสะสม 85 ราย สาเหตุหลัก "ขับรถเร็ว"
ศปถ. สรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนน "7วัน อันตราย" เทศกาลปีใหม่ 2565 สะสัมวันที่ 2 เกิดอุบัติเหตุ 784 ครั้ง เสียชีวิตแล้ว 85 ราย สาเหตุหลัก "ขับรถเร็ว" ตามมาด้วย "เมาแล้วขับ" โคราช เสียชีวิตสะสมมากสุด 7 ราย
31 ธ.ค.64 ที่ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานการประชุมคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนตลอดทั้งปี ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เปิดเผยว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่พ.ศ. 2565 7วัน อันตราย
สถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 30 ธันวาคม 2564 ซึ่งเป็นวันที่สองของการรณรงค์ “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ”
เกิดอุบัติเหตุ 422 ครั้ง , ผู้เสียชีวิต 44 ราย , ผู้บาดเจ็บ 426 คน
สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็ว ร้อยละ 33.20 ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 29.60
ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 82.70
ส่วนใหญ่เกิดบนเส้นทางตรง ร้อยละ 81.80
ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 18.01 – 21.00 น. ร้อยละ 22.70
ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุด อยู่ในช่วงอายุ 40 – 49 ปี ร้อยละ 16.10
โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ (21 ครั้ง)
จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ร้อยเอ็ด (จังหวัดละ 3 ราย)
จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ (19 คน)
สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 2 วันของการรณรงค์ 7 วัน อันตราย (29 – 30 ธ.ค. 64)
เกิดอุบัติเหตุรวม 784 ครั้ง
ผู้เสียชีวิตรวม 85 ราย
ผู้บาดเจ็บ รวม 786 คน
จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 46 จังหวัด
จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุดได้แก่ เชียงใหม่ (31 ครั้ง)
จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ นครราชสีมา ( 7 ราย)
จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ เลย (32 คน)
นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในฐานะเลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน เปิดเผยว่า วันนี้เป็นวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ซึ่งมีการจัดงานสังสรรค์กับครอบครัวและญาติมิตรภายในครอบครัวและหมู่บ้าน อาจเพิ่มปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนจากการดื่มแล้วขับ โดยเฉพาะถนนทางหลวง เส้นทางสายรอง ถนนอบต.และหมู่บ้าน
ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนได้ประสานจังหวัดดูแลความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชนในเส้นทางดังกล่าวเป็นพิเศษ คุมเข้มขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด ดื่มแล้วขับ และไม่สวมหมวกนิรภัย รวมถึงเพิ่มความเข้มข้นจัดตั้งจุดตรวจของด่านชุมชนในเส้นทางสายรอง เส้นทางเข้าออกชุมชนและหมู่บ้าน เพื่อป้องปรามพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุทางถนน พร้อมคุมเข้มกลุ่มผู้ใช้รถจักรยานยนต์ให้สวมหมวกนิรภัยและไม่ขับขี่ด้วยความคึกคะนอง ท้ายนี้ ขอให้ประชาชนสังสรรค์ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ โดยปฏิบัติตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด – 19 ของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด เพื่อให้เทศกาลปีใหม่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขและความปลอดภัย