หนีหมู มากินปลานิล "เขื่อนลำปาวกาฬสินธุ์" แหล่งน้ำธรรมชาติ โปรตีนชั้นเลิศ
หลังจากเนื้อหมูราคาสูงขึ้น ปลานิลขายดีเป็นที่ต้องการของตลาดมากขึ้น แต่ราคาปลายังคงที่ไม่ได้ปรับเพิ่มขึ้น
วันที่ 15 ม.ค.65 เรื่องหมูแพง จะมากินอะไรแทนดี เป็นคำถามที่ตั้งกันมาในช่วงนี้ แต่จริง ๆแล้ว เรื่องของอาหารการกินในบ้านเรา มีอีกมากมาย แต่ละพื้นที่ก็จะมีวัตถุดิบเกี่ยวกับอาหารให้เลือกอีกหลากหลาย เพื่อเป็นการสนับสนุนให้สินค้าอื่นๆได้ เกิดการซื้อขาย ทดแทนกันไป
เช่นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ประมงจังหวัดกาฬสินธุ์ ชวนกินปลานิลเลี้ยงในกระชังเขื่อนลำปาวแหล่งน้ำธรรมชาติ ชี้เป็นแหล่งโปรตีนชั้นเลิศ
โดยปลานิลที่เลี้ยงในกระชังในเขื่อนลำปาว มีผู้ประกอบการมาส่งเสริมให้เกิดเป็นอาชีพเลี้ยงปลาเป็นเกษตรกรมีรายได้ตลอดทั้งปี และมีอาหารไว้สำหรับครอบครัว ปลานิลกระชังเขื่อนลำปาว ส่งจำหน่ายไปทั่วประเทศ มีกลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และสหกรณ์เลี้ยงปลานิลในกระชังในเขื่อนลำปาว เลี้ยงปลาคุณภาพออกสู่ตลาด รวมถึงการแปรรูปในแบบพร้อมรับประทานทั้งแจ่วบอง ปลาร้า และปลาแดดเดียว
ประมงจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวอีกว่า ปลานิลที่เลี้ยงในเขื่อนลำปาว มีการตรวจรับรองมาตรฐาน GAP ไร้สารเคมีตกค้าง 100% แหล่งเลี้ยงปลานิลในกระชังเขื่อนลำปาวเป็นแหล่งเลี้ยงทางธรรมชาติปลานิล มีคุณค่าทางอาหารมีโปรตีนสูง ย่อยง่ายเหมาะสำหรับผู้บริโภคทุกเพศทุกวัย
นอกจากนี้ยังทำได้สารพัดเมนู ปลาเผา ปลาทอด ปลานึ่ง และลาบปลา ซึ่งหลังจากประสบปัญหาหมูราคาแพง ปลาน่าจะเป็นอีกทางเลือกสำหรับในยุคแบบนี้ อยากจะเชิญชวนมาอุดหนุนเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาในกระชัง เลือกกินปลานิลจากเขื่อนลำปาว ราคาไม่แพง ปลอดภัยแน่นอน
นายสงวน คุณพิลา เกษตรกรผู้เลี้ยงปลาในกระชัง อำเภอสหัสขันธ์ กล่าวว่า ตอนนี้ปลาที่เลี้ยงอยู่มีจำนวนมาก หลังปีใหม่ยังมีปลาที่พร้อมออกสู่ตลาดได้ต่อเนื่อง ปลานิล จะใช้เวลาเลี้ยงประมาณ 3-4 เดือน โดยปลาที่จะออกจำหน่ายจะมีขนาด 8 ขีด – 1.2 กิโลกรัม ต่อตัว และมีเกษตรกรเลี้ยงจำนวนมาก ปลานิลน่าจะไม่มีภาวะขาดตลาดสามารถผลิตปลานิลส่งตลาดได้ต่อเนื่อง
ซึ่งหลังจากเนื้อหมูราคาสูงขึ้น ปลานิลขายดีเป็นที่ต้องการของตลาดมากขึ้นแต่ราคาปลายังคงที่ไม่ได้ปรับเพิ่มขึ้น ซึ่งหากราคายังอยู่ในระดับนี้เกษตรกรที่เลี้ยงปลากระชังพอใจ
