จับแล้ว "แก๊งคอลเซนเตอร์" จอมแสบ หลอกตุ๋นพระ 1.4 แสน อ้างร่วมขบวนการฟอกเงิน
"แก๊งคอลเซ็นเตอร์" สุดแสบ โทรศัพท์หลอกพระ กุเรื่องพัสดุผิดกฎหมาย แถมมีรายชื่อติดเครือข่ายฟอกเงิน เหยื่อหลงเชื่อโอนเงินให้ 1.4 แสนบาท ก่อนทิ้งท้ายคำพูด "ขอบล็อกนะครับหลวงพี่" สุดท้ายไม่รอด ถูกตำรวจไซเบอร์ ตามจับ
พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท. ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนเข้าจับกุม นายสุชาติ เพ็งชัย อายุ 44 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดตรัง ข้อหาฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น "แก๊งคอลเซ็นเตอร์" โดยสามารถจับกุมได้ขณะกบดานอยู่ในพื้นที่ของ สน.พหลโยธิน ทั้งนี้ ผู้ต้องหารายนี้ได้หลอกลวง พระกรวิชญ์ วชิรญาโณ วัดมหัตตมังคลาราม จ.สงขลา ว่าเป็นพนักงานบริษัทขนส่ง บอกว่ามีพัสดุถูกกรมศุลกากรตรวจสอบว่าเข้าข่ายผิดกฎหมาย และมีรายชื่อติดในเครือข่ายฟอกเงิน โดยคนร้ายอีกรายอ้างชื่อเป็นตำรวจ "แก๊งคอลเซ็นเตอร์"
พระกรวิชญ์ เปิดเผยว่า ในฐานะที่เราอยู่ในผ้าเหลือง ก่อนหน้านี้มีผู้หญิงชื่อ รภีพร โทรมาอ้างเป็นพนักงานบริษัทขนส่ง บอกว่ามีพัสดุถูกกรมศุลกากรตรวจสอบว่าเข้าข่ายผิดกฎหมาย ด้านในมีหนังสือเดินทาง 14 เล่ม บัตรเอทีเอ็ม 10 ใบ เสื้อผ้าอีก 8 ชุด ทางคอลเซนเตอร์ เขาถามว่าใช่ตนเองที่ส่งไปหรือเปล่า ตนได้บอกไปว่าไม่ได้ส่ง และมีการถามต่อว่า ได้นำเอกสารบัตรประชาชน ไปยื่นที่ไหนที่อาจจะรั่วไหลบ้าง
โดยทางคอลเซนเตอร์ปลายสาย ที่อ้างเป็นพนักงาน บ.ขนส่ง บอกว่าถ้าไม่ใช่ หลวงพี่ ก็ต้องยืนยันความบริสุทธิ์ใจกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยมีการส่งต่อให้คุยผ่านวิดิโอคอล ระบุว่าเป็น ตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ ตำรวจคนที่ 1 อ้างตัวเป็นผู้หมวด และส่งต่อไปยังตำรวจคนที่ 2 อ้างตัวเป็นสารวัตร ชื่อ ร.ต.อ. ภาณุวัฒน์ ด้วงบ้านยาง ในสายมีเสียง วิทยุสื่อสารดังตลอดเวลา
พระกรวิชญ์ เปิดเผยอีกว่า จากนั้นชายที่อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ วิดิโอคอล ขอดูหน้า เพื่อยืนยันว่าเป็นพระจริง และได้ถามเลขบัตรที่บัตรประชาชน ก่อนจะบอกชื่อว่านายกรวิชญ์ พรมวงษ์ ซึ่งเป็นชื่อจริงของพระ มีชื่อติดในเครือข่ายฟอกเงินกับ นายสมศักดิ์ มีการฟอกเงินนับ 1,000 ล้าน และนายสมศักดิ์ได้ซัดทอด อ้างว่า แบ่งเงินให้พระกรวิชญ์ 850,000 บาท ตนเองก็ปฏิเสธไปทันที ว่าไม่ได้รู้จักเขา และไม่ได้รับจ้างเปิดบัญชีแต่อย่างใด
"คุยกันนานเกือบ 1 ชั่วโมง ยอมโอนเงินไปให้ 140,000 บาท ที่ถูกอ้างว่าต้องโอนเงินไปให้ตรวจสอบ หลังโอนเงินไป รออยู่ 30 นาที ก็เริ่มเอะใจ เลยเอาชื่อตำรวจ ไป search ดูในกูเกิ้ล พบว่ามีตำรวจชื่อนี้จริงๆ แต่ 2 นาที หลังจากนั้น ฝั่งมิจฉาชีพก็บอกเข้ามาว่า “ขออนุญาตบล็อกนะครับหลวงพี่” ได้ยินแบบนั้นถึงกับใจสั่นน้ำตาไหลเลย"
พระกรวิชญ์ เปิดเผยอีกว่า สำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ถูกคนร้ายอ้างชื่อนั้นคือ ร.ต.อ. ภาณุวัฒน์ ด้วงบ้านยา ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า มีตัวตนอยู่จริง โดยประจำการอยู่ที่ สภ.บางระกำ จ.พิษณุโลก และได้คุยกับตำรวจนายนี้แล้ว โดยทางตำรวจนายนี้ ได้แจ้งว่า ได้ถูกนำชื่อไปแอบอ้างเช่นกัน และหลวงพี่ตกเป็นเหยื่อรายที่ 40 แล้ว ที่มิจฉาชีพเอาชื่อไปหลอก จากนี้อยากให้หน่วยงานไหนก็ได้ เข้ามาช่วยเหลือ เพราะเงินก้อนนี้ เป็นก้อนสุดท้ายในชีวิต และเตรียมไว้ใช้หนี้ให้กับครอบครัว แต่กลับมาเสียค่าโง่ให้กับแก๊งมิจฉาชีพ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.รัษฎา จ.ตรัง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป