ข่าว

พลิกปูม ใครเป็นใครในบรรดาขุนพลร่วมอุดมการณ์จัดตั้ง"พรรคสร้างอนาคตไทย"

พลิกปูม ใครเป็นใครในบรรดาขุนพลร่วมอุดมการณ์จัดตั้ง"พรรคสร้างอนาคตไทย"

19 ม.ค. 2565

เปิดตัวพรรคสร้างอนาคตไทยอย่างยิ่งใหญ่กันไปแล้ว อุตตม-สนธิรัตน์ เปิดเผยบรรดาผู้ร่วมก่อการตั้งพรรคสร้างอนาคตไทย สำรวจกันแต่ละคนมีที่มาที่ไปอย่างไร

อุตตม-สนธิรัตน์ เปิดตัวพรรคสร้างอนาคตไทย ประกาศเจตนารมณ์รวมคนทุกวงการ ร่วมแก้ไขปัญหาประเทศ มุ่งเน้นด้านเศรษฐกิจเป็นหลัก ชี้เรื่องปากท้องคือต้นตอของปัญหาลุกลาม กระทบความมั่นคงด้านสังคม ทำประชาชนสิ้นหวัง

 

พลิกปูม ใครเป็นใครในบรรดาขุนพลร่วมอุดมการณ์จัดตั้ง\"พรรคสร้างอนาคตไทย\"

 

ภายหลังประกาศอุดมการณ์ของพรรค สองแกนนำ อุตตม-สนธิรัตน์ ได้เปิดตัวบุคคลที่มาจากหลากหลายอาชีพมาร่วมเป็นสมาชิกพรรคสร้างอนาคตไทย 

 

ทว่า การเปิดตัวครั้งนี้ ได้มีการอุบไต๋ชื่อหัวหน้าพรรค โดย นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ผู้ที่จะเป็นหัวหน้าพรรคจะต้องได้รับการพิจารณาเห็นชอบจากกรรมการบริหารพรรคก่อน  อย่างไรก็ตาม ทั้งนายอุตตม และนายสนธิรัตน์ กล่าวถึงชื่อ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นหนึ่งในรายชื่อที่จะถูกเสนอเข้าไปในบัญชีแคนดิเดตนายกฯ ในจำนวน 3 คนที่พรรคจะเสนอ  

 

คราวนี้ มาเปิดดูรายชื่อสมาชิกพรรคชุดแรกที่ถูกเชิญตัวขึ้นเวทีกัน เป็นใครมาจากไหนบ้าง 

 

 

 

พลิกปูม ใครเป็นใครในบรรดาขุนพลร่วมอุดมการณ์จัดตั้ง\"พรรคสร้างอนาคตไทย\"

 

เริ่มจาก   ศ.ดร.กำพล ปัญญาโกเมศ อดีตอธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า)

 

นายบุญส่ง ชเลธร ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบสวัสดิการ ประเทศยุโรป 

 

นายนริศ เชยกลิ่น อดีตผู้บริหารระดับสูง ด้านอสังหาริมทรัพย์และการเงิน

 

นายแก้ว สังข์ชู ปราชญ์ชาวบ้านภาคใต้ ผู้นำผู้บริหารเพื่อการพัฒนาองค์กรชุมชน

 

นายศิวโรฒ จิตนิยม ปราชญ์ชาวบ้านภาคกลาง เจ้าของผลงาน "หนองสาหร่ายโมเดล"


นายวิรัช วิฑูรย์เธียร อดีตหัวหน้าผู้เชี่ยวชาญสิ่งแวดล้อมจากธนาคารโลก

 

นายอาสา วัฒนญาณกุล ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี และนักพัฒนา software ด้านสุขภาพและการท่องเที่ยว

 

นายพงศ์พรหม ยามะรัต อดีต CEO บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำและนักต่อสู้เพื่อสิ่งแวดล้อม

 

นายโอฬาร วีระนนท์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้าง และลงทุนในธุรกิจนวัตกรรม

 

นางละเอียด ปู่หล่น ปราชญ์ชาวบ้านภาคอีสาน และผู้ก่อตั้งวิชชาลัยครุไทบ้าน

 

นายอิธวัฒน์ พิทักษ์คุมพล รองเลขาธิการจุฬาราชมนตรี

 

นายรักษ์พงศ์ เซ่งเจริญ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.)

 

นายมนต์ชีพ ศิวะสินางกูร ครูและคนดนตรีสำคัญของประเทศไทย

 

ดร.ณพพงศ์ ธีระวร อดีตประธานสมาพันธ์ SME

 

นางสาวโชนรังสี เฉลิมชัยกิจ มือพัฒนา SMEs ผู้คร่ำหวอดในธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์

 

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตรมว.วัฒนธรรม นักการเมืองผู้เจนจัดในสนามการเมืองไทย 

 

นายสุพล ฟองงาม อดีตรมช.มหาดไทย อดีตรมต.ประจำสำนักนายกฯ ขุนพลอีสานผู้อยู่เคียงข้างประชาชน

 

นายวัชระ กรรณิการ์ อดีตรองโฆษกรัฐบาล 

 

นายสันติ กีระนันทน์ อดีต ส.ส. และผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการทางการเงินและตลาดทุน

 

นางสาวทักษอร คงคาประเสริฐ หญิงแกร่งแห่งวงการนวัตกรรม

 

นายสรรเพ็ชญ ศรีสวัสดิ์ ผู้ช่วยประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย 

 

นายจิรมิตร เกสร ผู้นำด้านเกษตรอินทรีย์แบบพึ่งพาตนเอง

 

นายธงชัย ชาสวัสดิ์ ผู้อำนวยการใหญ่สำนักงานการค้าและเศรษฐกิจไทย  ไทเป

 

 


นายอุตตม สาวนายน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า สำหรับพรรคสร้างอนาคตไทย มีจุดกำเนิดจากบุคคลที่หลากหลายความรู้และประสบการณ์ ที่ตระหนักถึงหน้าที่ความเป็นคนไทย และพร้อมอาสาเข้ามาทำงานให้บ้านเมือง และวันนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้น เพราะยังมีทั้งนักการเมืองระดับรัฐมนตรี ที่ได้รับการยอมรับด้านผลงานในอดีต นักวิชาการ นักบริหารที่มีชื่อเสียงจากภาคเอกชน และภาคประชาชน ซึ่งพร้อมที่จะเข้าร่วมอุดมการณ์กับพรรค แต่ยังไม่พร้อมเข้าสู่การเมืองในขณะนี้ เพียงแค่รอให้ถึงเวลาเหมาะสมในอีกไม่นานนี้


"พรรคสร้างอนาคตไทย จะไม่ใช่เป็นเพียงพรรคการเมือง แต่จะเป็นพื้นที่เปิดเพื่อรวมกลุ่มคน หลากหลายสาขาอาชีพ ในทุกภาคส่วน ทุกเพศทุกวัย เพื่อระดมความเห็น ช่วยกันคิด ช่วยกันทำ ร่วมไม้ร่วมมือฟื้นฟูประเทศ และวางรากฐานเพื่ออนาคตที่มั่นคงยั่งยืนให้กับคนรุ่นต่อไป"  นายอุตตม กล่าว 

 

 
ขณะที่ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า พรรคสร้างอนาคตไทย แม้จะเป็นการรวมกลุ่มคนร่วมอุดมการณ์จากหลากหลายสาขาอาชีพ แต่พรรคก็บ่งบอกอัตลักษณ์และตัวตนที่แท้จริงของแต่ละคนด้วยเช่นกัน ภายใต้ปรัชญาที่ว่า "คนสร้างพรรคและพรรคสร้างคน" ซึ่งทุกคนมีความมุ่งมั่น มีความรู้ความสามารถ และมีประสบการณ์ ที่ต้องการจะสร้างพรรคการเมืองแห่งความหวังและเป็นอนาคตของคนไทย เพื่อขับเคลื่อนความร่วมมือนำพาประเทศให้ก้าวข้ามผ่านวิกฤติทางเศรษฐกิจและทางสังคมไปสู่อนาคตที่ดี

 

โดยพร้อมที่จะเข้ามาแก้ปัญหาในด้านต่าง ๆ ที่สะสมในสังคมไทยมาอย่างยาวนาน และวางรากฐานอนาคตที่มั่นคงของคนรุ่นต่อไป ซึ่งนโยบายหลัก ๆ ของพรรค ไม่ได้มุ่งเน้นเพียงการเข้ามาแก้ปัญหาด้านเศรษฐกิจ แต่ต้องการเข้ามาขับเคลื่อนเพื่อนำไปสู่การพัฒนาโครงสร้างของประเทศ ให้ทันต่อสถานการณ์ในปัจจุบัน พร้อมรองรับอนาคตที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เพื่อสร้างโอกาส และสร้างอนาคตของประเทศ ภายใต้การดำเนินการทางนโยบายใน 2 แนวทาง

 

ทั้งการเปิดรับแนวคิด และการรวบรวมนโยบายจากผู้ที่มีประสบการณ์เชิงลึกเกี่ยวกับปัญหาทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงการรับฟังเสียงของพี่น้องประชาชนผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ เพื่อให้นโยบายที่พรรคจะขับเคลื่อนเป็นนโยบายที่ประชาชนจับต้องได้ และจะเป็นนโยบายที่ขับเคลื่อนเพื่อพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคนอย่างแท้จริง

 

"ในนามของพรรค ต้องขอขอบคุณนักการเมือง ภาคประชาสังคม และพี่น้องประชาชนที่มีความสนใจ และมีอุดมการณ์ ต้องการเข้ามามีส่วนร่วมในการสร้างพรรคแห่งความหวังของคนไทยด้วยกัน เพื่อช่วยกันทำให้ปัญหาที่กัดกินประเทศลดลง และสร้างสรรค์การเมืองที่ไม่ทำลายตัวเอง เป็นการเมืองที่ประชาชนสัมผัสได้จากนโยบายและผลสัมฤทธิ์ของการทำงานเพื่อปากท้องของพี่น้องประชาชน ซึ่งหลังจากนี้ทางพรรคจะมีการเปิดตัวบุคลากรและนโยบายในอนาคตอย่างต่อเนื่อง" นายสนธิรัตน์ กล่าว