ข่าว

"จุรินทร์" ยืนยันพบใครกักตุนสินค้า ขึ้นราคาไม่แจ้ง เจอโทษสูงสุดแน่นอน

"จุรินทร์" ยืนยันพบใครกักตุนสินค้า ขึ้นราคาไม่แจ้ง เจอโทษสูงสุดแน่นอน

21 ม.ค. 2565

“จุรินทร์” เผย รัฐบาลดำเนินหลายมาตรการเพื่อแก้ปัญหาเนื้อหมูและสินค้าต่าง ๆ แพงแล้ว และหากพบใครกักตุน ฉวยโอกาสขึ้นราคา จะดำเนินคดีขั้นสูงสุด ฝากประชาชนแจ้ง 1569 ด้วย

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงการแก้ปัญหาราคาเนื้อหมูในประเทศว่า ภาพรวมของการแก้ปัญหาหมูแพงนั้น ทุกฝ่ายทราบแล้วว่าปริมาณหมูในระบบขาดแคลน โดยต้องดำเนินการร่วมกันหลายกระทรวง รวมทั้งนายกรัฐมนตรีก็เข้ามาช่วยดูแล สั่งการ ซึ่งทางแก้ประการแรก ต้องเร่งเพิ่มปริมาณหมูในระบบ เพื่อให้สมดุลกับความต้องการในตลาด ราคาจะได้ปรับลดลงสู่ระดับที่สมดุลกว่าในปัจจุบัน

ประการที่สองคือเร่งส่งเสริมการเลี้ยงหมู  ซึ่งขณะนี้รัฐบาลมีมติเตรียมวงเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ เงื่อนไขพิเศษ ให้กระทรวงการคลังดำเนินการเร่งส่งเสริมการเลี้ยงหมู วงเงิน 30,000 ล้านบาท และกรมปศุสัตว์ เร่งผลิตลูกหมูประมาณ 300,000 ตัวต่อสัปดาห์ และเร่งประสานงานกับผู้เลี้ยงหมูรายย่อย

ส่วนของอาหารสัตว์ที่เป็นต้นทุนสำคัญในการเลี้ยงหมู  มีความเห็นว่าควรปรับลดภาษีวัตถุดิบบางส่วน  ซึ่งเป็นหน้าที่กระทรวงการคลังพิจารณา  ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ได้เร่งดำเนินการในเรื่อง 1.สั่งห้ามส่งออกหมูเป็นการชั่วคราว เพื่อให้หมูกลับสู่ระบบอีกประมาณ 1,000,000 ตัว  2.ติดตามการขายหมูตั้งแต่หน้าฟาร์ม โดยทำงานร่วมกับกรมปศุสัตว์ กำหนดราคาหมูหน้าฟาร์ม และกำหนดทิศทางราคาที่ควรจะเป็นโดยกรมการค้าภายใน  ไม่ให้เข้าข่ายการค้ากำไรเกินควรหรือฉวยโอกาส  เพื่อมุ่งเน้นให้เกษตรกรผู้เลี้ยงหมูมีรายได้ที่จูงใจ กลับเข้ามาเลี้ยงหมูต่อไป และมีกำไรพอยังชีพต่อไปได้ ขณะเดียวกันผู้ประกอบการก็อยู่ได้  ผู้บริโภคก็พอใจไม่เป็นภาระจนเกินสมควร

\"จุรินทร์\" ยืนยันพบใครกักตุนสินค้า ขึ้นราคาไม่แจ้ง เจอโทษสูงสุดแน่นอน
สำหรับผู้ฉวยโอกาสในการขึ้นราคาสินค้าหรือค้ากำไรเกินควร  นายจุรินทร์ กล่าวว่า จะดำเนินคดีโดยเคร่งครัด และที่ปรากฏเป็นข่าวว่าอาจมีการกักตุนเนื้อหมูในประเทศ ขณะนี้นายกรัฐมนตรีสั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดเป็นแกนสำคัญ  ในการเข้าไปตรวจสต๊อกร่วมกับกรมปศุสัตว์และพาณิชย์จังหวัด หากพบการกักตุนสินค้าหรือฉวยโอกาสขึ้นราคา จะดำเนินคดีลงโทษขั้นสูงสุด  และฝากขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตา หากพบการกระทำความผิดหรือสงสัยว่าเป็นการกระทำความผิด  ขอให้แจ้งสายด่วน 1569 เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้ลงไปตรวจสอบและดำเนินการได้ทันที

นายจุรินทร์ กล่าวต่อไปว่า ภาพรวมเรื่องราคาสินค้าในส่วนความรับผิดชอบของกระทรวงพาณิชย์ ได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงพาณิชย์เป็นประธานวอร์รูมในระดับประเทศ และผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดเป็นประธานในส่วนจังหวัด ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ขณะเดียวกันได้สั่งการให้กรมการค้าภายในเรียกประชุมผู้ผลิต ผู้ประกอบการผู้ค้า และสมาคมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อจับมือกันตรึงราคาสินค้าหมวดสำคัญต่อชีวิตประจำวัน เช่น 1.เครื่องใช้ไฟฟ้า 2.น้ำอัดลม 3.บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 4.ซอสปรุงรส  สำหรับไข่ไก่จะตรึงราคาหน้าฟาร์มที่ 2.90 บาท ส่วนราคาขายส่งขายปลีกจะบวกไป ซึ่งมีสูตรคำนวนชัดเจนอยู่แล้ว

ส่วนไก่ ได้มีมติให้เป็นสินค้าควบคุม ทั้งไก่เป็นและผลิตภัณฑ์จากไก่ ซึ่งคณะกรรมการกลาง ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) มีมติแล้ว จะเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันอังคารหน้า (25) รวมทั้งกำหนดให้ไก่ หรือผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับไก่ ต้องแจ้งสต๊อก  ต้นทุน และกรมการค้าภายในประชุมร่วมกับผู้ประกอบการและเกษตรกร ถึงราคาที่เหมาะสมควรว่าควรจะเป็นเท่าไหร่ ซึ่งได้ดำเนินการไปเรียบร้อยแล้ว

“ขณะนี้ในภาพรวมสำหรับสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน ที่ต้องขออนุญาตจากกรมการค้าภายในหากมีการปรับราคา  กรมการค้าภายในยังไม่มีการอนุญาตให้สินค้ารายใดที่ต้องขออนุญาตปรับราคาขึ้นแต่อย่างใดทั้งสิ้น  โดยนโยบายตนเองให้ไว้ชัดเจนว่าต้องตรึงราคาไว้ให้มากที่สุด แต่ทุกฝ่ายต้องอยู่ได้ด้วยความเป็นธรรม และถ้าใครทำผิดกฎหมาย ละเมิดข้อตกลง หรือว่ากักตุนฉวยโอกาสค้ากำไรเกินควร ให้ผู้มีหน้าที่ดำเนินคดีและให้ลงโทษขั้นสูงสุด” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวย้ำทิ้งท้าย