"เพชร กรุณพล" หลั่งน้ำตาบนเวทีปราศรัย อัดอั้นการใช้อำนาจไม่เป็นธรรม
ผู้สมัครเลือกตั้งซ่อมหลักสี่ -จตุจักร พรรคก้าวไกล "เพชร กรุณพล" หลั่งน้ำตา อัดอั้นการใช้อำนาจไม่เป็นธรรม-บริหารประเทศผิดพลาด ลั่น พร้อมพุ่งชนทุกปัญหา ด้าน พิธา ประกาศ พร้อมเป็นรัฐบาล ตัดงบกองทัพ หนุนรัฐสวัสดิการ ขอคะแนนชาวหลักสี่-จตุจักร ร่วมเปลี่ยนประเทศ
พรรคก้าวไกล จัดเวทีปราศรัยใหญ่ หาเสียงเลือกตั้งซ่อมโค้งสุดท้าย ให้กับผู้สมัคร ส.ส. เขตหลักสี่-จตุจักร พรรคก้าวไกล "นายกรุณพล เทียนสุวรรณ" หรือ "เพชร กรุณพล" ที่สนามกีฬาชุมชนเสนานิคม2 ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีประชาชนร่วมฟังปราศรัยจำนวนมาก และยังเป็นที่สังเกตว่า มีกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมือง มาร่วมเปิดท้ายขายของและส่งเสียงเชียร์ให้กำลังใจ ผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคก้าวไกล ในครั้งนี้ด้วย
"นายกรุณพล" กล่าวบนเวทีปราศรัย ถึงข้อกังขาว่า พรรคก้าวไกล ส่งนักแสดงลงเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้เพราะกลัวแพ้หรือไม่และข้อสงสัยว่า ตนไม่ใช่คนพื้นที่ จึงขอยืนยันว่าตนเองอยู่ในพื้นที่มามากกว่า 30 ปี พร้อมยอมรับว่า การลงพื้นที่หาเสียง ตากแดดหน้าดำแบบนี้เหนื่อยมาก เพราะไม่เคยทำแบบนี้มาก่อนแต่ในสภาวะแบบนี้เชื่อว่าประชาชนเหนื่อยกว่าตนอีกมาก
ที่ผ่านมาตนรับฟังปัญหาของประชาชนในฐานะนักแสดง และเคยสะท้อนไปหลายครั้งแต่เหมือนการพูดผ่านกำแพง จึงตัดสินใจเข้ามาร่วมงานกับพรรคอนาคตใหม่และพิสูจน์มาแล้วว่าเป็นพรรคของประชาชน ตีแผ่อำนาจอธิปไตย จนถูกตัดสินยุบพรรค แต่แม้จะถูกตัดต้นไป ก็ได้เกิดพรรคก้าวไกล และตนเข้าสมัครสมาชิกพรรคก้าวไกล
"นายกรุณพล" กล่าวพร้อมน้ำตาว่า รู้สึกอัดอั้นต่อการใช้อำนาจที่ไม่เป็นธรรม เห็นคนที่ออกมาต่อสู้ถูกจำคุก เห็นประชาชนที่มองไม่เห็นอนาคต ตนจึงอยากเข้ามาเป็นปากเป็นเสียง ช่วยให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี และลูกหลานมีอนาคตที่ดีกว่าที่เป็นอยู่ หลุดพ้นจากการบริหารประเทศที่ผิดพลาด
"นายกรุณพล" ย้ำว่า ถึงเวลาแล้ว ที่ประชาชนต้องการความเปลี่ยนแปลง ต้องการคนที่พุ่งชนปัญหา ต้องการคนที่พูดตรง ๆ อย่างดุดัน แต่ไม่ก้าวร้าว โก้งโค้งให้ประชาชน แต่ยืนตรงให้เผด็จการ
ด้านนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ปราศรัยว่า หากรัฐบาลมาจากพรรคก้าวไกลและมีตนเป็นนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกล จะเข้าไปสู่อำนาจในการบริหารรัฐบาล เปลี่ยนงบกองทัพ ให้เป็นงบของประชาชน สร้างรัฐสวัสดิการให้กับคนทุกเพศ ทุกวัย พร้อมเข้าไปสู้กับสงครามความยากจน ต่อสู้กับสังคมคนสูงวัย ในฐานะหัวหน้าพรรคก้าวไกล สัญญาว่าจะใช้งบประมาณในการดูแลผู้สูงวัยที่ต่อสู้มาก่อนและจะสร้างบ้าน 4 แสนหลังในกรุงเทพมหานครพร้อมเพิ่มตำแหน่งงาน การสร้างงาน ให้ประชาชน กองทัพต้องได้รับการปฏิรูป โดยนายพลต้องลดลงทันที 20 % พร้อมยืนเคียงข้างนายทหารชั้นผู้น้อย ซึ่งเป็นความฝันของตนเองในฐานะหัวหน้าพรรคก้าวไกล และในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนต่อไป
นายพิธา กล่าวว่า พรรคก้าวไกล ยังหยุดไม่ได้ ขอทีมงานพรรค ส.ส. และว่าที่ผู้สมัคร สก.ทุกคน ช่วยกันเคาะทุกบ้าน ทุกประตู ช่วยให้ "เพชร กรุณพล" เข้าไปเป็น ส.ส.ในสภา และตนขอสัญญาเมื่อวันนั้นมาถึง เขตจตุจักร-หลักสี่ จะเปลี่ยนไปอย่างไม่มีวันหวนคืนและพรรคก้าวไกลจะเข้าไปเปลี่ยนแปลงกรุงเทพ เปลี่ยนแปลงประเทศไปด้วยกัน