หนุ่มโร่ฟ้อง "เงินในบัญชี" ถูกโอนไปบริษัทประกัน ข้องใจพนง.มีเอี่ยวหรือไม่
หนุ่มหอบหลักฐาน แจ้งความตร.สอบพิรุธ "เงินในบัญชี" ถูกโอนไปบริษัทประกันภัยเกือบ 10,000 บาท ทั้งที่ไม่ได้เป็นลูกค้า เมื่อทวงถาม ได้คืนมาครึ่งหนึ่ง แต่ไม่พบหลักฐานบันทึกความเคลื่อนไหวของบัญชี ข้องใจพนักงานธนาคารมีส่วนเกี่ยวข้องด้วนหรือไม่
25 ม.ค.2565 จากกรณีที่มีผู้โพสต์เฟซบุ๊ก โดยระบุข้อความว่า "ตามคดีเรื่องโดนบริษัทฯประกันภัยรายหนึ่งดึงเงินจากบัญชีไป 9,000 กว่าบาท โดยที่เจ้าของบัญชีไม่ได้ทำประกันกับบริษัทรายนี้ไว้ เบื้องต้นเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วังคู เพื่อปรึกษาหาทางออกและก่อนหน้านี้ทางบริษัทประกันรายนี้ได้โอนเงินคืนมา 4500 บาท และบอกให้รออีก 3 -7 วัน จะโอนที่เหลืออีก 4,500 บาท มาคืน และ วันนี้ได้โทรสอบถามธนาคารที่เกี่ยวของกับบัญชีนี้และทางธนาคารจะชดเชยแทนในส่วนของเงินที่เหลือ 4,500 บาท ภายใน 5 วัน ทำการส่วนทางคดีหรือความคืบหน้าต่างๆกับบริษัทประกันรายนี้ทางธนาคารจะดำเนินการในขั้นตอนต่อไป
#เรื่องนี้ต้องมีผู้ผิด?? #เหตุการณ์จะต้องเป็นอุทาหรณ์ให้กับบุคคลอื่นต้องรับรู้และรู้ทัน"
ล่าสุด วันนี้ นายโกมล (สงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี ผู้เสียหาย พร้อมด้วย นาย บรรพต เชนรัมย์ ผู้ใหญ่ บ้านกะบกหวาน อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ได้นำเอกสารข้อมูลที่เกี่ยวกับการโอนเงินเข้าออกของธนาคารแห่งหนึ่ง ที่โอนเงินเข้าบัญชีของบริษัทประกันภัยแห่งหนึ่ง ได้เดินทางมาที่ สภ.ระเบาะว่า อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี เพื่อแจ้งความลงบันทึกประจำวันกับพันตำรวจโทปรีชา จุลโพธิ์ สารวัตร (สอบสวน) สภ.ระเบาะไผ่ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบข้อมูลไว้เพื่อเป็นหลักฐานพร้อมกับรับเรื่องและตรวจสอบข้อมูลเพื่อติดตามหาสาเหตุที่เกิดขึ้นในครั้งนี้
เบื้องต้นจากการสอบถามนายโกมล เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 20 ม.ค. ที่ผ่านมา ตนได้นำเงินจำนวน 10,000 บาท ไปฝากผ่านทางตู้เอทีเอ็ม ของธนาคารแห่งหนึ่ง ในเขตเทศบาลกรอกสมบูรณ์ ต่อมาวันรุ่งขึ้น วันที่ 21 ม.ค. ตนได้ไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็ม พบว่าจำนวนเงินในบัญชีได้หายไป ตนไม่ทราบว่าจะทำอย่างไรจึงได้ติดต่อหาเพื่อนซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้าน เพื่อนจึงแนะนำว่าให้สมัครแอพพลิเคชั่นของธนาคารแห่งนั้น เพื่อทำการตรวจสอบหายอดเงินที่หายไป โดยเบื้องต้นทราบว่าเงินได้ถูกโอนเข้าไปยังบริษัทประกันภัยแห่งหนึ่ง 2 ครั้ง ครั้งแรกยอด 4,591 บาท ในวันที่ 20 ช่วงเวลา 15.00 น. และวันที่ 21 ม.ค. เวลา 18.36 น.โอนออกไปอีก 4,591 บาท รวมจำนวนเงินทั้งหมด 9,182 บาท
ตนจึงโทรติดต่อไปสอบถามยังบริษัทประกันภัยดังกล่าว โดยบริษัทประกันภัยให้ แจ้งให้แอดไลน์ เพื่อสอบถามกับแอดมิน จากนั้นทางแอดมินได้ด้ขอหมายเลขบัตรประชาชนจำนวน 13 หลักเพื่อตรวจสอบข้อมูลว่าได้ทำประกันภัยไว้กับบริษัทหรือไม่ ทั้งนี้ตนไม่เคยทำและหลังจากทางแอดมิน ได้ทำการตรวจสอบแล้วไม่พบบัญชีหรือชื่อของตนได้ทำประกันร่วมกับบริษัทแห่งนั้น ต่อมา เวลา 19.00 น. บริษัทประกันภัยได้โอนเงินคืนมาให้จำนวน 4,591 บาท ส่วนยอดที่เหลืออีก 4,591 บาท ทางบริษัทแจ้งให้รอ 7-14 วันการทำการ
นายโกมล ยังเล่าอีกว่า หลังจากที่ได้รับเงินโอนเงินมาจำนวนหนึ่งแล้ว ตนได้สอบถามว่า ทางบริษัทประกันภัยดึงเงินจากบัญชีของตนได้อย่างไร ซึ่งทางบริษัทประกันภัยไม่สามารถให้รายละเอียดหรือข้อมูลได้ นอกจากนี้ ข้อมูลการโอนเงินในแอพพลิเคชั่นหรือแม้กระทั่งสมุดบัญชีที่ก็ไม่มีปรากฏให้เห็น ยิ่งสร้างความมึนงงให้กับตนเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้ตนอยากจะฝากถามทางธนาคารว่า การฝากเงินไว้กับธนาคารจะมีความปลอดภัยหรือไม่ ทั้งนี้ตนคิดว่าพนักงานธนาคารอาจจะมีส่วนรู้เห็นกับบริษัทประกันภัยดังกล่าว ซึ่งทางบริษัทประกันจะมาลบข้อมูลเกี่ยวกับการเดินเงินของธนาคารตนคิดว่าเป็นไปไม่ได้ สุดท้ายแล้วอยากฝากถึงธนาคารให้ทำการตรวจสอบความปลอดภัยให้กับผู้ใช้หรือเจ้าของบัญชีธนาคารด้วย ทั้งนี้ตนเป็นเจ้าของบัญชีเจ้าของเงินแท้ๆแต่ต้องมาทำตัวเหมือนอาบังเก็บเงินกู้ ทำให้เสียเวลาเสียความรู้สึกในกานตามเงินตัวเองแบบนี้
ข่าว-ภาพ ทีมข่าวคมชัดลึกปราจีนบุรี