"เพลิงไหม้"บ้านอาสาฯกู้ภัยร่วมกตัญญู ไฟคลอกดับ 2 เจ็บ 1
เมื่อช่วงกลางดึก เกิด "เพลิงไหม้" ทาวน์เฮ้าส์ ย่านจอมทอง พบผู้เสียชีวิต 2 คน 1 ในนั้นเป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ถูกไฟคลอก ขณะกำลังกลับเข้าไปช่วยลุงอายุ 60 ปีที่นอนอยู่บนชั้น 2 และมีผู้บาดเจ็บอีก 1
27 ม.ค.2565 เวลา 00.05 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางขุนเทียน ได้รับแจ้งมีเหตุ เพลิงไหม้ บ้านเรือนประชาชน ภายในซอยเอกชัย 30 แยก 5 จึงประสานเจ้าหน้าที่ดับเพลิง พร้อมด้วยมูลนิธิร่วมกตัญญู มาสนับสนุนในจุดเกิดเหตุ ที่เกิดเหตุเป็นทาวน์เฮ้าส์สูง 2 ชั้น ปลูกติดกันหลายหลัง บริเวณภายในซอยค่อนข้างคับแคบ การดับไฟจึงต้องให้รถดับเพลิงจอดอยู่หน้าปากซอยแล้วลากสายยางฉีดน้ำเข้ามาภายในซอย โดยใช้เวลาควบคุมเพลิงประมาณ 30 นาที เพลิงจึงสงบ
เมื่อเพลิงสงบเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางขุนเทียน และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบพบมีผู้เสียชีวิตอยู่บนชั้น 2 ของบ้าน รวม 2 คน คือ นายกิตติพงษ์ สอนดี อายุ 30 ปี เจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิร่วมกตัญญู รหัสบางขุนเทียน 15 และผู้ชายอีกรายอายุประมาณ 60 ปี ยังไม่ทราบชื่อ เป็นลุงของผู้เสียชีวิตมีอาชีพขับรถแท็กซี่
สอบถามจากนาย พงษ์ศักดิ์ ธงชัยธำรงกุล อายุ 52 ปี เป็นผู้เห็นเหตุการณ์คนแรก เล่าว่า ขณะที่ตนนั่งฟังวิทยุอยู่หน้าบ้าน ได้ยินเสียงดังคล้ายระเบิด ตนจึงมองหาตามเสียงและก็เห็นไฟกำลังไหม้ จึงตะโกนเรียกคนในบ้าน และ เรียกให้โทรแจ้งดับเพลิง โดยบ้านหลังเกิดเหตุ เป็นบ้านของอาสามูลนิธิร่วมกตัญญู ทราบเพียงชื่อเล่น ชื่อนาย เอ พักอยู่กับแฟนชื่อ แอน และลุง มีอาชีพขับแท็กซี่อีกคน
ด้าน น.ส.กรกนก น้อยตัด อายุ 15 ปี อาสาสมัครร่วมกตัญญ จุด บางขุนเทียน เป็นอาสาที่มาถึงที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ชุดแรก เปิดเผยว่า ช่วงที่ตนเดินทางถึงจุดเกิดเหตุ ไฟกำลังลุกไหม้แล้ว นายเอ เจ้าของบ้าน ได้ออกมาจากบ้านแล้ว แต่วิ่งกลับเข้าไปช่วยแฟน ซึ่งแฟนของ นายเอ ได้วิ่งสวนกันออกมา โดยมีไฟติดออกมาด้วน ตนจึงรีบปฐมพยาบาลและเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลเป็นการด่วน ส่วนบนชั้น 2 ของบ้านมีลุงซึ่งมีอาชีพขับแท็กซี่ พักอาศัยอยู่ นอนเสียชีวิตอยู่ที่ชั้น 2
เบื้องต้นผู้บาดเจ็บ มีอาการสาหัสจากการถูกไฟคลอกทั้งตัวขณะกำลังวิ่งหนีออกมา ส่วนบ้านข้างเคียงได้รับความเสียหายรวม 3 หลัง ขณะที่สาเหตุเจ้าหน้าที่ต้องรอการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งส่วนศพผู้เสียชีวิตทั้ง 2 หลังจากแพทย์นิติเวช โรงพยาบาลศิริราชเข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุเบื้องต้นแล้ว เจ้าหน้าที่จะนำศพส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตเพิ่มเติม ก่อนจะให้ญาติมาติดต่อขอรับร่างกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
ชุติเดช ม่วงใจรักษ์ ผู้สื่อข่าวคมชัดลึก กทม.