ข่าว

ไขข้อสงสัย "รถหายในห้าง" ห้างต้องรับผิดชอบหรือไม่ จอดฟรี ไม่รับบัตร ทำยังไง

ไขข้อสงสัย "รถหายในห้าง" ห้างต้องรับผิดชอบหรือไม่ จอดฟรี ไม่รับบัตร ทำยังไง

28 ม.ค. 2565

สำนักงานกิจการยุติธรรม ตอบข้อสงสัย "รถหายในห้าง" เราต้องทำอย่างไร ห้างต้องรับผิดชอบหรือไม่ จอดฟรี ไม่รับบัตร ทำยังไง เช็คคำตอบที่นี่

สถิติรถหายมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ และหนึ่งในสถานที่ที่รถหายมากที่สุด คือ ลานจอดรถในห้างสรรพสินค้า เมื่อ "รถหายในห้าง" ทุกคนก็จะเกิดคำถามตามมาว่า ห้างฯ จะต้องรับผิดหรือไม่

 

ซึ่งเรื่องนี้ ยังคงเป็นปัญหาที่ถกเถียงกันมากว่าใครควรจะเป็นฝ่ายที่ต้องรับผิดชอบ แม้จะมีคำพิพากษาของศาลฎีกาออกมา มากมาย แต่ก็ยังไม่สามารถใช้เป็นบรรทัดฐานอ้างอิง ในกรณีอื่นๆ ได้ เนื่องจากต้องดูข้อเท็จจริงและพฤติการณ์ใน แต่ละกรณีประกอบกัน วันนี้ คมชัดลึกออนไลน์ จะพามาหาคำตอบกัน

 

"รถหายในห้าง" ห้างต้องรับผิดชอบหรือไม่ ?

 

จากคดี "รถหายในห้าง" ในอดีตที่ผ่านมาหลายๆ คดีได้บทสรุปในชั้นศาลว่า หากลูกค้านำรถยนต์ส่วนตัวมาจอดที่ ห้างสรรพสินค้า ห้างต้องให้ความปลอดภัยต่อลูกค้ารวมถึงทรัพย์สินของลูกค้า หมายถึงรถยนต์ที่ลูกค้านำมาจอดที่ลาดจอดรถของ ห้างสรรพสินค้า ด้วยเช่นกัน

 

ไม่ว่า ห้างสรรพสินค้า แห่งนั้นจะมีบัตรจอดรถแจกให้กับลูกค้าหรือไม่ คิดค่าบริการในการจอดหรือจอดฟรี หากเกิดการสูญหายของรถทางห้างต้องจ่ายสินไหมทดเเทนให้กับลูกค้าที่นำรถเข้ามาจอด

แต่ในกรณีที่บางรายแค่นำรถเข้ามาจอดใน ห้างสรรพสินค้า โดยที่ไม่ได้ซื้ออะไร หรือแค่นำรถมาจอดทิ้งไว้เเล้วเดินทางไปทำธุระที่อื่นต่อหาก "รถหายในห้าง"  ในกรณีนี้ ทางห้างไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ่้นเพราะถือว่าเจ้าของรถไม่ได้เป็นลูกค้าที่มาใช้บริการกับทางห้าง แค่นำรถมาจอดทิ้งไว้ ทางห้างไม่ได้รับประโยชน์ใดๆ กับการมาจอดรถ

 

หมายถึงทุกครั้งเวลาที่คุณมา ห้างสรรพสินค้า เพื่อซื้อสินค้าหรือทานอาหารควรเก็บใบเสร็จหลังชำระสินค้าไว้เป็นหลักฐานด้วยทุกครั้ง เพราะหากรถหายคุณสามารถนำสลิปใบเสร็จมายืนยันได้ว่าคุณคือลูกค้าของห้างสามารถเก็บไว้ยืนยันเป็นหลักฐานฟ้องร้องศาลได้

 

กรณี "รถหายในห้าง" โรงเเรม รีสอร์ท เจ้าของรถต้องฟ้องภายในระยะเวลา 1ปี นับจากวันที่ รถหาย  นอกเหนือจากนั้นจะถือว่าอายุความขาด เเละที่ขาดไม่ได้ตามที่กล่าวมา ต้องมีสลิปค่าใช้จ่าย ณ สถานที่นั่นเก็บไว้เป็นหลักฐานทุกครั้ง

 

ที่มา สำนักงานกิจการยุติธรรม