รู้จัก "สุรชาติ เทียนทอง" สายเลือดเทียนทอง คว้าเก้าอี้เลือกตั้งซ่อมหลักสี่
"สุรชาติ เทียนทอง" ยึดพื้นที่ ส.ส. กทม.เขต 9 หลักสี่-จตุจักร ได้สำเร็จ หลังทำฝันเป็นจริงจากการทุ่มเทแรงกาย แรงใจ ลงพื้นที่หาเสียงอย่างต่อเนื่องเพื่อขอเพิ่มอีก 1 เสียงให้พรรคฝ่ายค้านได้ทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาล
"การเกิดในตระกูลนักการเมือง ทำให้ยิ่งต้องพิสูจน์ตัวเองหนักกว่าคนอื่น ๆ อยากให้ผู้คนจดจำเขาในฐานะผู้แทนราษฎรคนหนึ่ง ไม่ใช่เพียงลูกของนักการเมืองเท่านั้น"
ประโยคดังกล่าวคือความจริงใจที่ "สุรชาติ เทียนทอง" อยากพิสูจน์ตัวเขาเองให้ทุกคนได้เห็นว่าเขาต้องการเป็นส.ส.ที่ได้เข้าไปครองหัวใจของประชาชนในพื้นที่จากความตั้งใจทำงาน การขยันลงพื้นที่เพื่อช่วยเหลือและดูแลประชาชนมาโดยตลอด จะทำให้เขามีโอกาสได้รับเลือกเป็นส.ส.และเดินเข้าสภาผู้แทนราษฎรได้อย่างภาคภูมิใจ
"คมชัดลึก" พาไปรู้จักกับส.ส.คนใหม่ของพื้นที่ กทม. เขต 9 "จตุจักร-หลักสี่" อ๊อบ-สุรชาติ เทียนทอง ผู้สมัครรับเลือกตั้งส.ส.ของพรรคเพื่อไทย หมายเลข 3 วัย 42 ปี ที่เขาทำความฝันของเขาให้เป็นจริงได้อีกครั้ง และนำชัยชนะมาสู่พรรคเพื่อไทยเพื่อเพิ่มเก้าอี้ส.ส.ขึ้นมาอีก 1 ตัวให้กับฝ่ายค้าน เพื่อให้เป็นอีก 1 เสียงในการที่จะร่วมซักฟอกและตรวจสอบการบริหารประเทศของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม จากที่เขาเองเคยเป็นอดีตส.ส. เมื่อการเลือกตั้งปี 2554
สุรชาติ เทียนทอง นามสกุล "เทียนทอง" ไม่มีใครไม่รู้จัก "ป๋าเหนาะ" - เสนาะ เทียนทอง อดีตรมว.มหาดไทยและรมว.สาธารณสุข "เจ้าพ่อวังน้ำเย็น" และ สุรชาติ คือบุตรชายของ ป๋าเหนาะ แต่เขาไม่ต้องการใช้ความเป็นทายาทของ ตระกูลเทียนทอง สนับสนุนให้เขาได้เป็นส.ส.ในเขตพื้นที่ของผู้เป็นบิดา หรือเขตจังหวัดสระแก้ว แต่กลับมุ่งมั่นลงพื้นที่ หลักสี่-จตุจักร อย่างต่อเนื่องเพื่อหวังว่าการกาบัตรเลือกตั้งส.ส. ที่มีขึ้นอีกครั้งนี้ เขาจะได้รับเลือกตั้งด้วยตัวเขาเอง เพราะเขาได้ทุ่มเทแรงกายแรงใจให้กับประชาชนในพื้นที่แห่งนี้มาโดยตลอด ชัยชนะในวันนี้ของเขาจึงเป็นรางวัลแห่งความเพียรและความดีมอบแก่ลูกผู้ชายคนนี้
สำหรับเส้นทางการเมืองของ "สุรชาติ เทียนทอง" นั้น เขาเป็น รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย และอดีตส.ส.กทม. เขต 11 จากการเลือกตั้งปี 2554 โดยเขาลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส.ครั้งแรกในปี พ.ศ. 2550 สังกัดพรรคประชาราช แต่ไม่ได้รับการเลือกตั้ง และชนะการเลือกตั้งได้เป็น ส.ส.สมใจจากการเลือกตั้งปี 2554 หลังจากที่เขาและครอบครัวได้ย้ายมาสังกัดพรรคเพื่อไทย โดยสามารถเอาชนะ สกลธี ภัททิยกุล จากพรรคประชาธิปัตย์ และ ศุภมาศ อิศรภักดี จากพรรคภูมิใจไทย อดีต ส.ส.ได้สำเร็จ
ส่วนด้านการศึกษานั้น "สุรชาติ" สำเร็จการศึกษาในระดับ ปริญญาตรี ด้านการจัดการบริการด้านการเงิน และ ปริญญาโท สาขาผู้นำองค์กร จากมหาวิทยาลัยจอห์นสัน แอนด์ เวลส์ สหรัฐอเมริกา มีอาชีพเป็นนักธุรกิจ และมีสายเลือดของการเป็นนักการเมืองที่ต้องการทำงานเพื่อช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่และเป็นปากเป็นเสียงให้กับประชาชนแบบเต็มร้อยเลยทีเดียว