ข่าว

ตะลึง พบ "ผู้ติดเชื้อ HIV" สายพันธุ์ใหม่ VB ทำลายภูมิคุ้มกันเร็วขึ้นกว่าเดิม

ตะลึง พบ "ผู้ติดเชื้อ HIV" สายพันธุ์ใหม่ VB ทำลายภูมิคุ้มกันเร็วขึ้นกว่าเดิม

05 ก.พ. 2565

ตะลึง พบ "ผู้ติดเชื้อ HIV" โรคเอดส์สายพันธุ์ใหม่ VB ทำลายภูมิคุ้มกันเร็วขึ้นกว่าเดิม เจอแล้ว 109 ราย ในเนเธอร์แลนด์

ผลวิจัยของมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด สหราชอาณาจักร ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร "ไซเอินส์" (Science) เปิดเผยผลการศึกษาว่า พบเชื้อไวรัส HIV-เอดส์ ซุปเปอร์กลายพันธุ์ สายพันธุ์ใหม่ VB ทำให้ "ผู้ติดเชื้อ HIV" มีอาการป่วยเร็วขึ้นสองเท่า เมื่อเทียบกับเชื้อไวรัส HIV สายพันธุ์ปัจจุบัน โดยขณะนี้
พบผู้ติดเชื้อไวรัส HIV-เอดส์ ซุปเปอร์กลายพันธุ์ สายพันธุ์ใหม่ VB แล้ว 109 ราย ส่วนใหญ่อยู่ในประเทศเนเธอร์แลนด์

 

 

 

นักวิจัยของมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด พบว่า ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัส HIV สายพันธุ์ VB (VB variant) มีปริมาณเชื้อไวรัสในเลือดสูงกว่าผู้ป่วยติดเชื้อ HIV สายพันธุ์อื่น ๆ ราว 3.5-5.5 เท่า และยังทำให้ระบบภูมิคุ้มกันถูกทำลายได้รวดเร็วขึ้นอีกด้วย และทำให้ผู้ติดเชื้ออ่อนแอลงทุก ๆ วัน ในการที่จะต่อสู้กับเชื้อโรคร้าย อีกทั้ง เชื้อไวรัส HIV สายพันธุ์ VB นี้ ยังทำให้ผู้ติดเชื้อพัฒนาไปสู่การป่วยเป็นโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือเอดส์ ได้เร็วมากขึ้นด้วย

 

อย่างไรก็ดี ผลวิจัยชี้ว่า "ผู้ติดเชื้อ HIV" สายพันธุ์ VB สามารถฟื้นฟูระบบภูมิคุ้มกัน และใช้ชีวิตได้ต่อไปหลังเข้ารับการรักษา เช่นเดียวกับผู้ป่วยติดเชื้อHIV สายพันธุ์อื่น ๆ ขณะที่ ดร. คริส วายแมนต์ นักระบาดวิทยาของมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด สหราชอาณาจักร และเป็นหัวหน้าคณะผู้เขียนวิจัยในครั้งนี้ กล่าวว่า เชื้อ HIV สายพันธุ์ VB ในเบื้องต้น ยังไม่น่ามีความน่าวิตกกังวล

 

 

อย่างไรก็ตาม เดลี่เมล เผยว่า ขณะนี้ชาวอังกฤษได้รับคำแนะนำให้ตรวจหาเชื้อ HIV และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ หรือ STIs เป็นประจำปีละหนึ่งครั้ง แต่ในส่วนสำหรับผู้ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายด้วยกัน ควรได้รับการตรวจหาเชื้อเอชไอวีทุก ๆ 3 เดือน ในขณะที่ขณะนี้ มีชาวอังกฤษติดเชื้อ HIV กว่า 100,000 ราย และสหรัฐอเมริกามีคนติดเชื้อเอชไอวีราว 1 ล้านราย

ด้าน ผู้เชี่ยวชาญอิสระกล่าวว่า การพบผู้ติดเชื้อ HIV สายพันธุ์ VB ไม่มีอะไรที่ต้องตื่นตระหนก เพราะก่อนหน้าเคยพบคนติดเชื้อสายพันธุ์ VB ครั้งแรก
ในช่วงทศวรรษ 1980 จากนั้น ก็พบผู้ติดเชื้อลดน้อยลงตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมา

 

 

 

ผลวิจัยดังกล่าวยังระบุว่า เชื้อ HIV สายพันธุ์ VB แพร่ระบาดมากขึ้นในช่วงปลายทศวรรษหลังปี 1980 ถึงช่วงต้นทศวรรษหลังปี 1990 ในเนเธอร์แลนด์ และเริ่มพบการระบาดลดลงในปี 2010 คณะนักวิจัยเชื่อว่า การระบาดของเชื้อHIV ในเนเธอร์แลนด์จะไม่ทำให้เกิดเชื้อไวรัสกลายพันธุ์ชนิดใหม่เนื่องจากวิทยาการรักษาสมัยใหม่ยังคงมีประสิทธิภาพต่อเชื้อดังกล่าวได้ดี รวมถึงการตรวจพบเชื้อและการเข้ารับการรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ ของผู้ป่วย