จำได้ไหม "อดีตพระดัง”ในตำนาน กับข่าวร้อนทำสะเทือน ถูกตีแผ่จับตามอง | คมชัดลึก

เรื่องราวของอดีตพระสงฆ์ชื่อดัง กลับมาถูกพูดถึงให้เห็นกันทั่วโลกออนไลน์ และเป็นที่สนใจของคนในวงกว้าง ที่สงสัยและตั้งคำถามในหลายประเด็นข่าวลือที่เกิดขึ้น ทั้งนี้สิ่งที่จะเป็นตัวพิสูจน์ได้นั้นคือหลักฐาน และความจริงที่หลายคนเฝ้ารอ 

วันนี้เราพาย้อนไปดูเหล่า "อดีตพระดัง" ชื่อเสียงกระหึ่มก้อง กับข่าวคราวที่ถูกตีแผ่ไปทั่วหน้าฟีดข่าวหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์กันซึ่งเชื่อว่าหลายคนคงจำกันได้ 

เริ่มที่อดีต "พระธัมมชโย(พระเทพญาณมหามุนี)" หรือ ไชยบูลย์ สุทธิผล" เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ประธานมูลนิธิธรรมกาย และผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ในข้อหาสมคบกันฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงิน และรับของโจร ตามที่ศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับลงวันที่ 17 พ.ค. 2559 

ตามข้อมูลยังระบุอีกว่า "ธัมมชโย" ยังถูกกล่าวหาในคดีอาญาฐานอื่นอีกหลายฐานความผิด ซึ่งอัยการคดีพิเศษ มีความเห็นสั่งฟ้องในบางคดีด้วยแล้ว แต่พระเทพญาณมหามุนีไม่ยอมมอบตัวตามหมายเรียก และได้หลบหนีคดีดังกล่าว  ทั้งนี้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ ถอดถอน พระเทพญาณมหามุนี (พระไชยบูลย์ สุทธิผล) ออกจากสมณศักดิ์ ตั้งแต่วันที่ 4 มี.ค. 2560

ในเวลาต่อมา ตำรวจได้เข้าค้นวัดพระธรรมกาย เพื่อเข้าจับกุมธัมมชโย แต่ศิษยานุศิษย์หลายร้อยคนก็รวมกันต่อต้าน จนเป็นข่าวใหญ่โตกินพื้นที่สื่อเป็นอยู่สักพัก สุดท้ายปฏิบัติการค้นวัดก็ต้องยุติลง และธัมมชโยก็ได้อันตรธานหายตัวไป

ข่าวของอดีตพระ "พระวิรพล ฉัตติโก" ที่เรียกตัวเองว่า "หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก" และเป็นที่รู้จักกันในชื่อ "เณรคำ" ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องร้อนในวงการสงฆ์เช่นกัน ใน ปี พ.ศ. 2542 "เณรคำ" ได้อุปสมบทเป็นภิกษุที่วัดศรีนวล อ.พิบูลมังสาหาร ก่อนจะกลับไปจำพรรษาที่สำนักสงฆ์ขันติธรรม ต่อมาชาวบ้านได้ถวายที่ดินที่ อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ให้กับเณรคำ เณรคำจึงสร้างสำนักสงฆ์ชื่อ "สำนักสงฆ์ขันติธรรม"ขึ้นที่ ซึ่งรู้จักกันว่าเป็น วัดป่าขันติธรรม ในเวลาต่อมา

เณรคำ มีชื่อเสียงจากความสามารถในการสั่งสอน แต่ภายหลังถูกถอดจากสมณเพศในปี พ.ศ. 2556 เพราะมีความผิดหลายประการ ด้วยภาพและวิดีโอหลักฐานการใช้เครื่องบินส่วนตัว รถยนต์เมอร์เซเดสเบนซ์ พร้อมถือกระเป๋าหลุยส์ วิตตอง จนถึงขั้นต้องปาราชิก แต่ก็ยังคงเห็นเณรคำห่มผ้าเหลืองหลังหนีไปกบดานที่สหรัฐอเมริกา

นอกจากนี้ "เณรคำ" ยังต้องข้อหาพรากผู้เยาว์อายุต่ำกว่า 15 ปี กระทำชำเราเด็กหญิง ฉ้อโกงประชาชน ฟอกเงิน และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์อีกด้วย

และอดีตพระดังอีกหนึ่งท่านอย่าง "พระยันตระ อมโรภิกขุ หรือ พระวินัย อมโร(วินัย ละอองสุวรรณ)" อดีตภิกษุชื่อดังที่มีผู้เคารพศรัทธามาก ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศในช่วงหนึ่ง เมื่อ พ.ศ. 2537 "พระยันตระ" ถูกฟ้องร้องหลายข้อหาและถูกเปิดหลักฐานเทปบันทึกการสนทนาล่อลวงเสพเมถุน และพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมเกี่ยวกับทางเพศมากมาย ทั้งที่เกิดในประเทศไทยและต่างประเทศ

สุดท้าย "พระยันตระ" ก็พ้นจากความเป็นพระภิกษุ แต่เขาไม่ยอมรับมติสงฆ์ดังกล่าว ด้วยการปฏิญาณตนว่ายังเป็นพระภิกษุ และเปลี่ยนสีจีวรเป็นสีเขียว ทำให้ถูกสื่อขนานนามว่า จิ้งเขียว, สมียันดะ, ยันดะ เป็นต้น

และเมื่อเดือนกันยายน 2564 ที่ผ่านมา "อดีตพระยันตระ" ก็ได้เดินทางกลับประเทศไทยอีกครั้ง หลังจากปักหลักอยู่สหรัฐอเมริกาในปี พ.ศ. 2557 ซึ่งสื่อต่าง ๆ ได้นำเสนอข่าวระบุว่าเจ้าตัวเดินทางกลับไทยเพื่อฉลองวันเกิด 70 ปี ซึ่งทำชาวเน็ตหลายคนที่พากันวิพากษ์วิจารณ์พร้อมถามว่าเหมาะสมหรือไม่ เมื่อเห็นภาพของ "พระสงฆ์" หลายรูปกำลังกราบไหว้ "อดีตพระยันตระ" 

นอกจากนี้ยังมีเรื่องราวข่าวร้อนวงการสงฆ์เกี่ยวกับ"อดีตพระดัง"อีกหลายคนที่เกิดในในบ้านเราให้เป็นอุทาหรณ์ และคอยเตือนสังคมให้ได้คิดตามกัน