มั่นใจ สาธิต โชว์กิน "อาหารทะเล" ระยอง ยันปลอดภัยจากคราบ "น้ำมันรั่ว" ในทะเล
รมช.สธ. โชว์กิน "อาหารทะเล" ระยอง สร้างความมั่นใจในความปลอดภัย ภายหลังจากเก็บกู้คราบ "น้ำมันรั่ว" ลงทะเลแล้ว ระบุผลตรวจโลหะหนักและสารเคมีในอาหารทะเลจากทุกแหล่งในระยองไม่เกินค่ามาตรฐาน วางแผนติดตามตรวจทั้งอาหารทะเลและสุขภาพเจ้าหน้าที่เก็บกู้ต่อเนื่อง 2-3 ปี
นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และนายอนันต์ นาคนิยม รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง แถลงข่าว "อาหารทะเล" ระยอง ปลอดภัย มั่นใจ กินได้ ภายหลังจากเก็บกู้ "น้ำมันรั่ว"ไหลลงทะเล จ.ระยอง โดยนำอาหารทะเลจาก 4 แหล่ง คือ หาดสุชาดา หาดสวนสน หาดแม่รำพึง และปากน้ำระยอง มาปรุงอาหารและรับประทานต่อหน้าสื่อมวลชน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวว่า มีความปลอดภัยสามารถรับประทานได้
รมช.สธ. กล่าวว่า หลังเกิดเหตุการณ์ "น้ำมันรั่ว" ไหล เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2565 ขณะนี้ดำเนินการกำจัดคราบน้ำมันได้เรียบร้อย
จะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาสาเหตุที่เกิดขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้มีเหตุการณ์เกิดขึ้นอีก และต้องมีเจ้าหน้าที่รับผิดชอบในการกำกับดูแลมาตรฐาน รวมถึงคณะกรรมการติดตามความเสียหายและผลกระทบที่เกิดขึ้น ซึ่งต้องติดตามประเมินความเสียหายอย่างต่อเนื่อง ทั้งผลกระทบต่อธรรมชาติทางทะเล พืชใต้น้ำ สัตว์ทะเล อาชีพประมงพื้นบ้าน
ส่วนวันนี้เป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่คนระยองและนักท่องเที่ยวว่า "อาหารทะเล" ระยองมีความปลอดภัย มั่นใจและบริโภคได้ โดยจากการเก็บตัวอย่าง "อาหารทะเล" แต่ละชนิดจากแหล่งต่างๆ พบว่ามีความปลอดภัย ไม่มีสารปนเปื้อนที่มีค่าเกินมาตรฐาน
นอกจากนี้ ยังมีการตรวจสุขภาพเจ้าหน้าที่เก็บกู้คราบน้ำมันกว่า 500 คน โดยเก็บเลือดและปัสสาวะมาตรวจก่อนปฏิบัติภารกิจ และจะตรวจหลังจบภารกิจในช่วง 3 เดือน 1 ปี และ 3 ปีต่อไป
ด้านนพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า ตั้งแต่เกิดเหตุช่วงแรก ได้เก็บตัวอย่าง กุ้ง หอย ปลา ปลาหมึก หลากหลายชนิด จากหลายพื้นที่ เช่น หาดสุชาดา หาดแม่รำพึง สวนสน และตลาดสดบ้านเพ จำนวน 14 ตัวอย่าง ตรวจหาสารโลหะหนักคือ ปรอท แคดเมียม และตะกั่ว ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ จ.ชลบุรี ไม่พบเกินค่ามาตรฐาน ส่วนสารปนเปื้อนจากน้ำมัน PAHs ( Polycyclic Aromatic Hydrocarbons ) ที่อาจก่อมะเร็ง ซึ่งค่ามาตรฐานต้องไม่เกิน 5 ไมโครกรัมต่ออาหาร 1 กิโลกรัม ก็ไม่พบเช่นกัน และในการตรวจครั้งที่ 2 จำนวน 17 ตัวอย่าง สารโลหะหนักทั้ง 3 ตัวไม่เกินเกณฑ์ อยู่ระหว่างรอผลตรวจ PAHs ซึ่งจะรู้ผลในอีก 1-2 วันนี้
ได้วางแผนตรวจอย่างต่อเนื่อง โดยช่วงกุมภาพันธ์จะตรวจทุกสัปดาห์ ช่วงมีนาคม-พฤษภาคม จะตรวจทุก 2 สัปดาห์ และเฝ้าระวังต่อไปอีก 2-3 ปี ขอให้มั่นใจว่าวันนี้ "อาหารทะเล" ระยองปลอดภัย
ขณะที่นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า กรมอนามัยร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดระยอง และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตรวจมาตรฐานตลาดและร้านอาหารต่างๆ ขอให้ประชาชนมั่นใจว่าวัตถุดิบปลอดภัย ผู้ปรุงจำหน่ายถูกสุขอนามัย จำหน่ายตามหลักสุขาภิบาล
อย่างไรก็ตาม ขอให้รับประทานอาหารให้หลากหลายครบ 5 หมู่ตามหลักโภชนาการ ไม่ควรรับประทานอาหารประเภทใดประเภทหนึ่งซ้ำๆ ต่อเนื่อง เพื่อผลดีต่อสุขภาพ