"แรมโบ้' ลาออก พปชร. ซบ รวมไทยสร้างชาติ หนุน บิ๊กตู่ เป็นนายกฯ อีกสมัย
"แรมโบ้ เสกสกล อัตถาวงศ์" ตัดสินใจลาออกจากพรรคพลังประชารัฐแล้ว เพื่อย้ายไปอยู่ พรรครวมไทยสร้างชาติ หนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ อีกสมัย โวมี บิ๊กเนม ร่วมงานพรรคใหม่เพียบ ด้าน ปรพล อดิเรกสาร ลาออกจากพลังประชารัฐ ย้ายไปอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติอีกคน
แหล่งข่าวยืนยันว่า นายเสกสกล อัตถาวงศ์ หรือ "แรมโบ้อีสาน" ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ที่ทำงานใกล้ชิด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ตัดสินใจยื่นลาออกจากพรรคพลังประชารัฐ เมื่อวันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา เพื่อไปอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งเป็นพรรคที่นายเสกสกล มอบหมายให้คนในทีมไปจดทะเบียนไว้ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2564
ทั้งนี้คำว่ารวมไทยสร้างชาติ เป็นคำที่ พล.อ.ประยุทธ์ คิดขึ้นมาเอง นายเสกสกล จึงขออนุญาต พล.อ.ประยุทธ์ นำไปตั้งชื่อพรรค ซึ่งพรรคการเมืองนี้ตั้งขึ้นมาเพื่อให้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ อีกสมัย ซึ่งการประชุมพรรคในเดือน มี.ค.นี้ จะมีการเปิดตัวคีย์แมนคนสำคัญของพรรคด้วย
ส่วนสาเหตุที่ "นายเสกสกล" ลาออกจากพรรคพลังประชารัฐ เพราะที่ผ่านมาทางพรรคพลังประชารัฐไม่เคยให้บทบาทกับ "นายเสกสกล" โดยนายเสกสกลทำงานให้กับพล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรีเท่านั้น และต่อไปแม้นายเสกสกลจะไปอยู่พรรคใหม่ ก็จะยังทำงานให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ เหมือนเดิม
สำหรับพรรครวมไทยสร้างชาติ จัดตั้งขึ้นเมื่อ 31 มี.ค.2564 มีว่าที่ ร.ท.ไกรภพ นครชัยกุล เป็นหัวหน้าพรรค มีกรรมการบริหารพรรค 27 คน สมาชิก 2,967 คน
นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า นายปรพล อดิเรกสาร อดีต ส.ส.สระบุรี จะมอบหมายตัวแทนเดินทางไปยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ที่ กกต.ในวันนี้ ( 7 ก.พ. ) และจะไปสมัครเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ ตามคำเชิญชวนของนายเสกสกล
“แรมโบ้” ประกาศตั้งพรรครวมไทยสร้างชาติเป็นทางเลือกให้ ประยุทธ์ ไม่ยอมให้ถูกกระทำฝ่ายเดียว โวมีบิ๊กเนมร่วมงานเพียบ เผย มี.ค. นี้ รอดูบิ๊กเซอร์ไพรส์
ต่อมา "นายเสกสกล อัตถาวงศ์" หรือ "แรมโบ้อีสาน" ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์ ภายหลังยื่นหนังสือลาออกจากสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ว่า ได้มีการพูดคุยกับ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มาก่อนแล้ว ตั้งแต่ยื่นขอจดทะเบียนพรรคต้นปี 64 ก่อนที่พรรคพลังประชารัฐจะมีปัญหา ซึ่งชื่อนี้เป็นคำที่พลเอก ประยุทธ์ ชื่นชอบ ตนจึงส่งทีมงานไปจดทะเบียนไว้ก่อนเพราะกลัวคนอื่นจะนำชื่อไปใช้ ซึ่งนายกฯ ไม่ได้ว่าอะไร และดำเนินการตามขั้นตอน กกต. ขณะนี้สำนักงานอยู่ที่ จ.นครราชสีมา แต่กำลังทำเรื่องย้ายมาที่ กทม.
โดยเดือนมีนาคมนี้จะมีการประชุมกรรมการบริหารพรรคนัดแรก เพื่อปรับโครงสร้างพรรค โดยจะมีบิ๊กเซอร์ไพรส์ล็อตแรกออกมาก่อน และจะทยอยเซอร์ไพรส์เรื่อยๆ แต่ขอไม่เปิดเผยว่ามีใครร่วมงานบ้าง แต่มี ส.ส. อดีต ส.ส. อดีตรัฐมนตรี รวมถึงรัฐมนตรี มาร่วมด้วย ส่วน นายพีรพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค จะมาเป็นหัวหน้าพรรค ตามที่มีกระแสข่าวหรือไม่ ยังบอกไม่ได้ เพราะขณะนี้เจ้าตัวยังเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐอยู่ แต่ยืนยันจะมีสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ หลายคน ทยอยลาออกตามมา
สำหรับพรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่ได้เป็นนอมินี หรือเป็นพรรคสำรองของใคร ที่สำคัญผู้สมัครสมาชิกพรรคต้องไม่มีประวัติด่างพร้อย สีเทาสีดำ ต้องทำงานเพื่อบ้านเมือง ยึด 3 สถาบันหลักของชาติ เป็นทางเลือกใหม่ และสนับสนุน พลเอก ประยุทธ์ เป็นนายกฯ อีกสมัย แต่ พลเอก ประยุทธ์ จะตัดสินใจเลือกให้พรรคใดเสนอชื่อ ก็เป็นสิทธิ
ทั้งนี้ การลาออกของตนไม่ได้แจ้งให้ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ รับทราบ เพราะตนเป็นเพียงสมาชิก ไม่ได้มีบทบาทในพรรคแต่อย่างใด และยังคงเคารพ พลเอก ประวิตร เช่นเดิม
"นายเสกสกล" ยังกล่าวอีกว่า แม้ พลเอก ประยุทธ์ จะไม่ได้เก่งกาจทางการเมือง แต่เป็นคนตั้งใจทำงาน ดังนั้นตนจะไม่ยอมให้ พลเอก ประยุทธ์ ถูกกระทำหรือโดดเดี่ยวเดียวดาย