เช็ค 5 "อาการติดโควิด" แบบไหนเข้าเกณฑ์เบิกค่ารักษาพยาบาล-รับชดเชยรายได้
5 "อาการติดโควิด" เช็คด่วนมีอาการแบบไหนเข้าเกณฑ์เบิกค่ารักษาพยาบาล ค่าชดเชยรายวันได้จากบริษัทประกันภัย หากไม่เข้าข่ายอาการ 5 ข้อ หมดสิทธิได้ค่ารักษา เช็คด่วนก่อนพลาด
ภายหลังจากที่สมาคมประกันชีวิตไทย ได้ออกแนวปฏิบัติการให้ความคุ้มครองการประกันภัยสุขภาพ สำหรับผู้เอาประกันภัยที่ติดเชื้อ "โควิด-19" ของบริษัทประกันชีวิต โดยต้องมีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ จึงจะเบิกค่ารักษาได้นั้น เพื่อให้สอดคล้องกับประกาศของกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง แนวทางปฏิบัติสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ในการให้คำแนะนำผู้ป่วยและการจัดบริการผู้ป่วย "โควิด-19" แบบ "Home Isolation" ฉบับปรับปรุง เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2565 โดยประกาศฉบับดังกล่าว ได้กำหนดแนวทางปฏิบัติให้ผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการ หรือมีอาการเพียงเล็กน้อย ให้กักตัวที่บ้าน "Home Isolation"
ส่วนกรณีผู้ป่วย "โควิด-19" ที่จะเข้ารักษาเป็น ผู้ป่วยใน ในโรงพยาบาลต้องมีความจำเป็นทางการแพทย์และมาตรฐานทางการแพทย์ ตามหลักเกณฑ์ของกระทรวงสาธารณสุข ข้อใดข้อหนึ่ง ดังนี้
- มีอาการไข้สูงกว่า 39 องศาเซลเซียส ระยะเวลานานกว่า 24 ชั่วโมง
- หายใจเร็วกว่า 25 ครั้ง ต่อนาทีในผู้ใหญ่
- Oxygen Saturation < 94%
- โรคประจำตัวที่มีการเปลี่ยนแปลง หรือจำเป็นต้องติดตามอาการอย่างใกล้ชิด ตามดุลยพินิจของแพทย์
- สำหรับในเด็ก หากมีอาการหายใจลำบาก ซึมลง ดื่มนมหรือทานอาหารน้อยลง
กล่าวคือต้องมีอาการอย่างน้อย 1 ข้อ จาก 5 ข้อ จึงจะมีสิทธิ์เรียกร้องสินไหมได้ ซึ่งหากผู้ป่วย "โควิด-19" ไม่เข้าข่าย 5 ข้อดังกล่าว ให้รักษาด้วยวิธี "Home Isolation" แทนซึ่งจะเบิกค่ารักษาไม่ได้ เนื่องจากสมาคมประกันชีวิตไทย ยกเหตุผลว่า ในระยะเวลาอันใกล้ "โควิด-19" จะเป็น โรคประจำถิ่น กระบวนการดูแลรักษาจะเปลี่ยนแปลงไป ไม่จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาเป็นผู้ป่วยในอีกต่อไป
และผู้เข้ารับการรักษาใน Hospitel ส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยกลุ่มสีเขียวที่ไม่มีอาการหรือมีอาการเพียงเล็กน้อย ดังนั้น การรักษาใน Hospitel เป็นเพียงการแยกกักตัว (isolation) ซึ่งไม่ควรถือว่าเป็นการเข้าพักรักษาตัวในรพ. (admit)ตามนิยามเดิม
ทั้งนี้หลักปฏิบัติดังกล่าว จะเริ่มใช้แนวปฏิบัตินี้พร้อมกันทั้งธุรกิจ ตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 เป็นต้นไป