"โรงเรียนดีเด่นดัง" มันโด่งดังจริงๆ หรือ?
เปิดเรื่องเล่าประสพการณ์ตรง หัวอกคนเป็นพ่อ ฝ่ากระแสค่านิยม "โรงเรียนดีเด่นดัง" ย้ายลูกมาโรงเรียนชุมชน มีนักเรียนทุกประเภท เป็นโรงเรียนห้องคละแบบหมุนเวียนกันไป รู้ไหมเกิดอะไร?
กว่า 2 ปีเด็กไทยถูกขังไว้ในบ้าน เรียนออนไลน์ แต่มีเด็กบางคนโชคดีมีโอกาสได้พบแสงสว่างมา เรียนออนไซต์ ที่โรงเรียน แต่นั่นเป็นส่วนน้อยเมื่อเทียบกับเด็กในสถานศึกษาที่จัดการศึกษาขั้นพื้นฐานเกือบ 40,000 แห่ง จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อใกล้เปิดเทอมใหม่ฤดูสอบแข่งขันเย่งที่นั่ง "โรงเรียนดีเด่นดัง" กำลังใกล้เข้ามาและความจริงโรงเรียนมันโด่งดังจริงๆหรือ?
พ่อแม่ผู้ปกครองต่างก็อยากให้ลูกๆเรียนโรงเรียนดีๆกันทั้งนั้น ในสมัยที่ผมได้รับเชิญจากรัฐมนตรีศึกษาธิการให้เป็นกรรมการกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) เพื่อป้องปรามและปราบปัญหาเงินแป๊ะเจี้ยะ
ในตอนนั้นได้เห็นความบัดซบของผู้บริหารโรงเรียนแทบทุกภาพ ใช้หน้าม้าโปรโมทมั่ง ถึงขั้นเงินไม่ขอรับ แต่ขอรับเป็นทองคำแทน ใครเททองให้มากกว่าก็ได้เก้าอี้ไป และมีอีกสารพัดวิธี นี่มันเป็นยิ่งกว่าโจรเรียกค่าไถ่
ผมเคยทดสอบโดยนำลูกผมมาเป็นเหยื่อทดลอง ในขณะที่เขาเรียนที่สังคมเชื่อว่าเป็น “โรงเรียนดีเด่นดัง” เรียนอยู่ห้องคิงส์ ผมจับลูกผมย้ายมาโรงเรียนชุมชน ที่นี่มีนักเรียนทุกประเภท เป็นโรงเรียนห้องคละแบบหมุนเวียนกันไป การเรียนของเขายิ่งมีความพัฒนาแบบก้าวกระโดดเลยครับ
เขามีความคิดเป็นของตนเอง วิ่งสอบชิงทุนแพทย์ ที่มีอยู่โลกวันนี้ก็ชัดเจนเขาเป็นแพทย์ที่จบมาจากต่างประเทศ นักเรียนทุนของรัฐบาลรัสเซีย ตอนที่เขาสอบชิงทุนแพทย์ ผมก็ถามเขานะครับ เขาตอบมาประโยคเดียว “หนูอยากช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์” (ผมหยุดถามเขาต่อเลยครับ)
เด็กอายุแค่16ปี ที่มีความสามารถบินเดี่ยว ไปใช้ชิวิตในต่างประเทศ ผมมองว่า “ทักษะ” และ “ความสามารถ” ตรงนี้ต่างหากที่นำพาให้ประสบความสำเร็จ
ตอนที่เขาอยู่ที่รัสเซีย เขาบอกผมว่า “หนูเสียดายเงินที่พ่อส่งให้หนูเรียนติวเตอร์เพื่อสอบแข่งขันเข้ามหาลัยจริงๆมันไม่มีประโยชน์เลยกับหนูเลย”
กับความเชื่อของผู้ปกครองที่ว่า “โรงเรียนดีเด่นดัง” มีเด็กๆมากมายที่ผู้ปกครองยัดเยียดให้ แต่ไปไม่ถึงฝันตกม้าตายเรียนไม่จบ หรือถูกผู้ปกครองสั่งให้เรียนในคณะที่ผู้ปกครองชอบแต่ลูกไม่ชอบ วันนี้ความฝังหัวของผู้ปกครองก็ยังเป็นแพทย์ วิศวะ นี่มันคือกับดักของชีวิตเด็กๆจริงๆ ที่ไปไม่ถึงฝัน
ในความเป็นจริงมันไม่มีโรงเรียนไหน “ดีเด่นดัง” มันอยู่ที่ความอบอุ่นของครอบครัวมาเป็นหลัก สอนให้ลูกๆรู้จักวินัยของตนเอง และรู้จักเวลา
บทความโดย...คมเทพ ประภายนต์ ประธานคณะทำงานการศึกษา สภาองค์กรของผู้บริโภค