"ช้อปดีมีคืน" สิ้นสุดวันนี้ รีบเช็คเงื่อนไข ก่อนช้อป ลดหย่อนภาษี
15 ก.พ. 2565
"ช้อปดีมีคืน" 2565 สิ้นสุดโครงการ 15 ก.พ.นี้ แต่หลายคนยังมีคำถาม ว่าสินค้าชนิดใดลดหย่อนได้ แล้วแบบไหนนำมาลดหย่อนภาษีไม่ได้ รวมมาให้แล้ว
"ช้อปดีมีคืน" 2565 อีกหนึ่งโครงการ ที่รัฐจัดมาให้อีกครั้ง เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายภาคเศรษฐกิจ ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2565 ถึงวันที่ 15 ก.พ. 2565 โดยผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สามารถนำค่าใช้จ่ายจากการซื้อสินค้า และค่าบริการ ที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม หนังสือ e-Book และสินค้า OTOP ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนดตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 30,000 บาท หักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับปีภาษี 2565 ซึ่งจะยื่นแบบและชำระภาษีในช่วงต้นปี 2566 นับถอยหลังเหลืออีกไม่กี่วัน ก็ถึงกำหนดเวลาจบโครงการแล้ว เชื่อว่าหลายคนยังมีข้อสงสัยว่า สรุปแล้วโครงการนี้มีข้อกำหนดอะไรบ้าง และสามารถใช้จ่ายอะไรได้บ้าง
- สำหรับผู้ที่ใช้สิทธิ "คนละครึ่งเฟส 4" และ "ยิ่งใช้ยิ่งได้" ยังสามารถใช้สิทธิในโครงการ "ช้อปดีมีคืน" ได้ โดยไม่ต้องลงทะเบียนใด ๆ ทั้งสิ้น
- เมื่อซื้อของครบ 30,000 บาท สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 30,000 บาท หากใช้สิทธิเกิน 30,000 บาท จะนำมาลดหย่อนภาษีได้เพียง 30,000 บาทเท่านั้น ซึ่งจะลดหย่อนได้เท่าไร ขึ้นอยู่กับฐานภาษีเงินได้ของแต่ละบุคคล
- การใช้สิทธิ เพื่อใช้ลดหย่อนภาษี มาตรการนี้ออกมาเพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายในปี 2565 จึงเป็นการลดหย่อนภาษีของปี 2565 ซึ่งผู้ใช้สิทธิจะต้องเก็บใบเสร็จไว้เป็นหลักฐาน เพื่อไปใช้ประกอบการยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ในช่วงต้นปี 2566
- สินค้าที่สามารถใช้สิทธิ "ช้อปดีมีคืน" ได้ คือสินค้าที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม และออกใบกำกับภาษีได้ ดังนั้นง่ายสุดคือ ถามคนขายก่อนซื้อ หรือรับบริการที่ร้านค้านั้น ๆ ว่าสามารถออกใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบให้ได้หรือไม่ รวมทั้ง ซื้อคอร์สนวด สปา เพื่อความงามจากสถานบริการความงาม ,ร้านอาหารภายในโรงแรม ก็สามารถนำมาใช้ลดหย่อนได้
- จำนวนการซื้อกองทุนนั้นไม่สามารถนำมาลดหย่อนได้ แต่ยอดค่าธรรมเนียมการซื้อกองทุน หรือที่เรียกว่า Front-End Fee สามารถนำมาใช้ลดหย่อนภาษีได้ โดยผู้ลงทุน (ผู้ซื้อ) ต้องขอหนังสือรับรองสิทธิในหน่วยลงทุน ซึ่งเป็นใบเสร็จรับเงินและใบกำกับภาษีจากสถาบันการเงินดังกล่าว เพื่อนำมายื่นประกอบการขอลดหย่อนกับกรมสรรพากร
- ซื้อของจากแอปพลิเคชันช้อปปิ้งออนไลน์ต่าง ๆ ได้ แต่ต้องมีใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบ ระบุข้อมูลผู้ซื้อครบถ้วน โดยการขอใบกำกับภาษี เป็นไปตามวิธีการที่แต่ละแอปพลิเคชันกำหนด และสินค้าต้องเป็นสินค้าที่ต้องเสีย VAT
สินค้าและบริการที่ไม่เข้าข่ายใช้สิทธิโครงการช้อปดีมีคืน
- ซื้อสุรา เบียร์ ไวน์ ยาสูบ
- ชำระค่าน้ำมันและก๊าซสำหรับเติมยานพาหนะ
- ซื้อรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และเรือ
- ซื้อหนังสือพิมพ์และนิตยสาร ทั้งสิ่งพิมพ์และอิเล็กทรอนิกส์
- บริการจัดนำเที่ยว ค่าที่พักโรงแรม
- ค่าเบี้ยประกันวินาศภัย
- ค่าสาธารณูปโภค เช่น ค่าไฟฟ้า ค่าประปา ค่าโทรศัพท์ ฯลฯ
- สินค้าประเภทอาหารสด เนื้อสัตว์ที่นำไปประกอบอาหาร หรือ ผัก ผลไม้
- หน้ากากอนามัย
- ชุดตรวจ ATK
- ชำระค่าบริการทางการแพทย์เกี่ยวกับการเสริมความงาม ทำหัตถการต่าง ๆ เช่น ฉีดโบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ ทำจมูก ทำศัลยกรรมตา ยกหน้า
- เบี้ยประกันชีวิต
- ค่าเทอมการศึกษา
- ทองคำ
- บัตรของขวัญ (Gift Voucher)
วิธีคำนวณลดหย่อนภาษี
- รายได้ 0-150,000 บาท/ปี ได้รับการยกเว้นภาษี ไม่สามารถรับเงินคืนได้
- รายได้ 150,001-300,000 บาท/ปี หักภาษี 5% ได้เงินคืน 1,500 บาท
- รายได้ 300,001-500,000 บาท/ปี หักภาษี 10% ได้เงินคืน 3,000 บาท
- รายได้ 500,001-750,000 บาท/ปี หักภาษี 15% ได้เงินคืน 4,500 บาท
- รายได้ 750,001-1,000,000 บาท/ปี หักภาษี 20% ได้เงินคืน 6,000 บาท
- รายได้ 1,000,001-2,000,000 บาท/ปี หักภาษี 25% ได้เงินคืน 7,500 บาท
- รายได้ 2,000,001-5,000,000 บาท/ปี หักภาษี 30% ได้เงินคืน 9,000 บาท
- รายได้ 5,000,001 ขึ้นไป หักภาษี 35% ได้เงินคืน 10,500 บาท