"พระพยอม" ซัด "พระฉาว" ซุกสีกา เสื่อมหนัก เสียศักดิ์ศรีลูกผู้ชายชาติพระ
"พระพยอม" ซัด "พระฉาว" ซุกสีกา เสื่อมหนัก แถไปแถมา เสียศักดิ์ศรีลูกผู้ชายชาติพระ ยก "หมอปลา" เป็นมือปราบอรัชชี
จากกรณีที่เมื่อคืนที่ผ่านมา (9 ก.พ.2565) "หมอปลา" นายจีระพันธ์ เพชรขาว เจ้าของเพจ หมอปลาช่วยด้วย พร้อมสื่อมวลชนหลายสำนัก บุกกุฏิ เจ้าอาวาส วัดบางหญ้าแพรก สมุทรปราการ หลังมีชาวบ้านร้องเรียนว่า พระมีพฤติกรรมมั่วสีกา และก็พบหลักฐานคาตา โดยพบสีกาสาวอยู่ในกุฏิ พระสมุห์ประสาทพร มหาปุญโญ เจ้าอาวาสวัดบางหญ้าแพรกจริง ก่อนถูกจับสึกในเวลาต่อมา กลายเป็นข่าวร้อนกระฉ่อนโลกออนไลน์
พระราชธรรมนิเทศ หรือ "พระพยอม กัลยาโณ" เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ให้สัมภาษณ์กับ "คมชัดลึกออนไลน์" กับประเด็นฉาวที่เกิดขึ้น "พระพยอม" บอกว่า เสียศักดิ์ศรีความเป็นพระ เสียศักดิ์ศรีลูกผู้ชายชาติพระ ไม่กล้ายอมรับความจริง ตอนนี้ยอมรับว่า สังคมเสื่อมอย่างรุนแรง ทั้งพระ ทั้งผู้หญิง ซึ่งน่าจะมีความคิดมากกว่านี้ ว่าอะไรถูก อะไรผิด อะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ แต่นี่กลายเป็น "ผีเน่ากับโรงผุ" โดยเฉพาะเอายางมัดผมมาคาดหัว แล้วอ้างว่า เป็นวิธีแก้อาการปวดหัว เอาตำรับนี้มาจากไหน เรียกว่าแถไปแบบน้ำขุ่น ๆ ไม่สมกับเป็นลูกผู้ชายชาติพระ รับไปก็จบแล้ว ไม่ต้องให้ใครมาประจาน ปัญหาใหญ่คือผิดแล้วไม่ยอมรับผิด
"แถไถ แฉลบไปแฉลบมา เสียศักดิ์ศรีความเป็นพระ ศักดิ์ศรีลูกผู้ชายชาติพระ ไม่น่าไปแถเลย แล้วไปเอาตำรามาจากไหน นี่คือแถชัด ๆ เวลาจนกระดานแล้วไปไม่ถูกมาส่งบัญชีบ้าอะไร ส่งจนชั้นในหลุด เห็นการแก้ตัวแถไถแล้ว เสียศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ คิดว่าคนที่ฟังกินหญ้าหรือไง ผู้หญิงก็น่าจะได้ผลประโยชน์ มีการเลี้ยงดูกัน ไม่งั้นไม่ไปหาหรอก น่าจะมีมานานแล้ว แบบนี้เรียกว่าน้ำตาลใกล้มด อย่าอยู่ในที่ลับกันสองต่อสอง ยังไงก็ผิด" พระพยอม กล่าว
ทั้งนี้ พระพยอม ยังได้ชื่นชมชาวบ้านที่อยู่โดยรอบวัดบางหญ้าแพรก ที่รู้จักปกป้องพระพุทธศาสนา ไม่ปล่อยให้คนที่อาศัยการครองผ้าหลวง มาย่ำยีพระธรรมวินัย และยึดครองวัด ทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพล โดยเฉพาะ "หมอปลา" เพราะหากไม่ได้ "หมอปลา" ก็ไม่รู้ว่าใครจะเป็นผู้นำ จาก หมอปลา มือปราบสัมภเวสี ตอนนี้กลายเป็น หมอปลา มือปราบอรัชชีให้ศาสนาไปแล้ว การทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ไม่สำคัญเท่ากับการปกป้อง คุ้มครอง ไม่ให้บุคคลเช่นนี้เป็นโจรปล้นศาสนา
"พระพยอม" กล่าวให้คำแนะนำ สำหรับพระสงฆ์ที่บวชอยู่ว่า ให้นึกถึงคำสอนที่ว่า จงทำให้ผู้ที่ไม่ศรัทธาให้ศรัทธา และทำให้ผู้ที่ศรัทธาแล้ว ศรัทธาเพิ่มขึ้นอีก แต่หากทำให้คนศรัทธาแล้ว กลับทำให้เสื่อมลง จะเป็นบาป คนบวชแล้วทำให้คนไม่ศรัทธา และเสื่อมศรัทธา เท่ากับปล้น และทำลายพระพุทธศาสนา เพราะฉะนั้น ถ้าอยู่ไม่ได้ก็สึกไป สมัยก่อน ถ้าหากทำแบบนี้ จะถูกเฆี่ยนทันที แต่ปัจจุบันโทษเบา เมื่อไม่มีใครแจ้งความ ก็ไม่มีคดี จึงถือว่าไม่มีความผิด เมื่อสึกออกมาแล้ว ไม่มีคดีอะไร ก็ต้องปล่อยตัวไป และอาจจะไปบวชที่อื่นอีก เนื่องจากยังไม่เรียกว่า อาบัติปาราชิก เพราะไม่มีหลักฐานที่จับได้คาหนังคาเขา