จับได้แล้ว "พยาบาล" ฉก "บัตร ATM" ผู้ป่วยแอบกดเงิน อ้างทำเพราะอารมณ์ชั่ววูบ
จับได้แล้ว "พยาบาล" รพ.ดัง ชลบุรี จำนนด้วยหลักฐานจากกล้องวงจรปิด สารภาพขโมย "บัตร ATM" ของผู้ป่วยไปกดเงินในบัญชี อ้างทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ มีปัญหาเรื่องเงิน
11 ก.พ.2565 จากกรณี นางวิไลวรรณ กอนตระกูล อายุ 35 ปี แจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.อ.ยุทธพล บุญเกิด พนักงานสอบสวน ร้อยเวรประจำวัน สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี ว่าหลังจากที่ พ่อของตนเข้ารับการรักษาอาการป่วยที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อำเภอบางละมุง จ.ชลบุรี และเสียชีวิตลงในเวลาต่อมา ทางโรงพยาบาลแจ้งให้รับทรัพย์สินคืน จึงทราบว่าบัตร ATM ในกระเป๋าสตางค์หายไป พร้อมทั้งมีการถอนเงินออกจากบัญชีไปเป็นจำนวนเงิน 4,500บาท ทั้ง ๆ ที่พ่อ นอนรักษาตัวอยู่ห้องไอซียู ไม่สามารถลุกออกจากเตียงได้ รวมทั้งธนบัตรเก่าสะสมของพ่อก็หายไปด้วย ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด วานนี้ (10 ก.พ.2565) ที่สถานีตำรวจภูธรบางละมุง นางวิไลวรรณ เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.นาวิน สินธุรัตน์ ผู้กำกับการ สภ.บางละมุง เพื่อขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ติดตามความคืบหน้าของคดีได้อย่างรวดเร็ว หลังจากที่เข้าแจ้งความร้องทุกข์ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนได้ติดตามภาพจากกล้องตู้ ATM ปรากฎภาพผู้ที่นำบัตร ATM ของผู้เสียชีวิตไปกดเงินจากตู้ ของธนาคารกสิกรไทย สาขาตลาดผู้ใหญ่กุ่ย ต.หนองปรือ อ.บางละมุง พบว่าเป็นผู้หญิงลักษณะผมสั้น สวมเสี้อสีเขียวสะพายกระเป๋าเป้ โดยกดเงินสดออกไปจากบัญชีผู้เสียชีวิต ทั้งเวลาและจำนวนเงินตรงตามที่ผู้เสียหายได้แจ้งความไว้ จึงได้ติดต่อประสานงานไปยัง รพ.บางละมุง ทราบว่า หญิงดังกล่าวเป็นพยาบาลอัตราจ้างที่ประจำอยู่ในตึกผู้ป่วยจริง เป็นผู้ดูแลคนไข้จริง ทางโรงพยาบาล จึงได้นำตัวเข้าพบต่อพนักงานสอบสวน
ทราบชื่อต่อมาคือนางสาวศิริพรรณ (สงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี เป็นพยาบาลอัตราจ้าง และทำงานมานานกว่า10 ปีแล้ว จากการสอบถามผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า ได้ขโมยบัตร ATM ของผู้ป่วยไปกดเงินสดจริง โดยขโมยไปเมี่อช่วงเช้าของวันทื่ 1 ก.พ. และนำบัตรไปกดเงินสดในวันที่ 2 ก.พ.เวลา18.15 น. โดย เหตุผลที่ทำลงไป เพราะอารมณ์ชั่ววูบ เนื่องจากมีปัญหาเรื่องการเงินในครอบครัว เงินไม่พอใช้ รายจ่ายเยอะ จึงต้องหาทางออกด้วยวิธีนี้ และยอมรับว่าทำแบบนี้เป็นครั้งแรก ได้กราบขอโทษญาติผู้ป่วยไปแล้ว
เบี้องต้นทางพนักงานสอบสวน ได้นำผู้ต้องหามาทำแผน ประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุ โดยแจ้งข้อกล่าวหา ลักทรัพย์ในสถานที่ราชการและใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชนและนำไปเบิกถอนเงินสด
ในส่วนของทางญาติผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ยังไม่มีผู้บริหารของทางโรงพยาบาล ติดต่อมาแต่อย่างใด ซึ่งทางญาติลูกหลาน ยังรอความรับผิดชอบของทางโรงพยาบาล อยู่กับการกระทำเช่นนี้ของพยาบาล ซึ่งเมี่อวานนี้วันเกิดเหตุ ทางรองผู้อำนวยการของโรงพยาบาลบ ยังติดต่อประสานงานมาทั้งวัน พร้อมทั้งได้แจ้งกับญาติว่า หากผู้ก่อเหตุเป็นคนของโรงพยาบาลจริง ทางโรงพยาบาลยินดีที่จะรับผิดชอบทุกอย่างให้ พร้อมทั้งจะออกมาขอโทษ ซึ่งทางญาติก็ยังจะรอให้ทางรพ.ออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมด้วย
ภาพ/ข่าว อนันต์ กิ่งสร ทิวากร กฤษมณี ผู้สื่อข่าวภูมิภาค พัทยา จ.ชลบุรี