เทียบกันชัดๆ "ฟู้ดเดลิเวอรี่" ค่ายไหน เก็บค่า GP เท่าไหร่บ้าง รวมมาให้ที่นี่
รวมมาให้แล้ว แอปพลิเคชั่น "ฟู้ดเดลิเวอรี่" 6 ค่ายดัง แต่ละค่ายให้บริการแตกต่างกันอย่างไร มีค่าบริการ หรือ ค่าสมัคร หรือไม่ และแต่ละค่าย มีค่า GP เท่าไหร่กันบ้าง
เทรนด์การเติบโตของธุรกิจ "ฟู้ดเดลิเวอรี่" มีตัวเลขที่เติบโตมากขึ้น จากสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 และการเปลี่ยนแปลงของโลกดิจิทัล ที่มีผลให้ผู้บริโภคมาใช้บริการนี้มากขึ้น โดย ยูโรมอนิเตอร์ มีการประเมินถึงมูลค่าตลาดรวมของ "ฟู้ดเดลิเวอรี่" ในประเทศไทย ว่า ปี 2563 จะมีมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ 68,000 ล้านบาท เพิ่มเป็น 74,000 ล้านบาทในปี 2564 และในปี 2565 จะมีมูลค่ารวมราว ๆ 82,000 ล้านบาท และเพิ่มเป็น 90,000 ล้านบาทในปี 2566
และจากพฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบัน ที่มีความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้อื่นโดยตรง "แอปพลิเคชั่น" สั่งอาหารแบบเดลิเวอรี่ จึงกลายเป็นสิ่งจำเป็นที่ใครหลายคนต้องมีไว้ติดเครื่อง ไม่ว่าจะสั่งอาหารจากที่บ้าน ที่ทำงาน หรือเวลาไปในพื้นที่ไหน ที่ไม่ถนัดในการเดินทาง "แอปพลิเคชั่น" สั่งอาหารเดลิเวอรี่จึงเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ผู้บริโภค
วันนี้ "คมชัดลึกออนไลน์" จึงได้รวบรวม แอปสั่งอาหารแบบเดลิเวอรี่ พร้อมวิธีการสมัคร และค่าบริการที่เรียกว่า "ค่า GP" (Gross Profit) คือค่าดำเนินการของแอปพลิเคชันฟู้ดเดลิเวอรี่ เป็นค่าคอมมิชชั่นที่ร้านอาหารจะต้องจ่ายให้กับผู้ให้บริการโดยหักจากราคาอาหารที่ขายได้ ไปดูกันว่าแต่ละค่ายแตกต่างกันอย่างไร รวมมาไว้ที่นี่แล้ว
รวมแอปสั่งอาหารแบบเดลิเวอรี่ที่น่าสมัครใช้บริการ 6 ค่ายดัง
1.Grab
2.Foodpanda
3.LINE MAN
4.Robinhood
5.Shopee Food
6.True Food
เปรียบเทียบวิธีสมัครแอพสั่งอาหาร เดลิเวอรี่ และค่าบริการแต่ละแอพ
1. Grab
Grab นั้นเป็นแอปพลิเคชันที่เรียกได้ว่าเป็นอันดับต้น ๆ ในใจของใครหลายคนเลยทีเดียว เพราะ Grab มีบริการที่หลากหลายรูปแบบ ทั้งการเดินทาง (GrabTaxi, GrabCar, JustGrab, GrabBike) ขนส่ง (GrabExpress) ไปจนถึงบริการด้านอาหาร ฯลฯ แถมยังมีร้านค้ามากมายให้เลือกใช้บริการ นอกจากนี้ทางแอปพลิเคชันเองก็มักจะมีโปรโมชันออกมาเอาใจผู้ใช้งานอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็น ส่วนลด ดีลราคา และโปรโมชันอื่น ๆ อีกมากมาย ในส่วนของการใช้จ่ายเงินก็สามารถทำได้หลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นจ่ายสด การตัดบัตรเดบิต/เครดิต ฯลฯ ในส่วนของการจัดส่งนั้น จะเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 10 บาท (เราสามารถใส่โค้ดส่วนลด ‘FREE’ เพื่อลดค่าส่งได้ 10 บาท) และการสั่งอาหารก็จะมีขั้นต่ำอยู่ที่ 70 บาท หากต่ำกว่านี้จะมีค่าส่วนต่างเข้ามา
ข้อมูลการสมัคร
แอปพลิเคชั่นร้านค้า : GrabFood Merchant (Smartphone หรือ Tablet ในระบบ Android เท่านั้น)
ค่าสมัคร : Free ไม่มีค่าใช้จ่าย
ค่าคอมมิชชั่น : ทาง GrabFood จะคิดค่าคอมมิชชัน 30% (ก่อน VAT 7%) ของรายการอาหารที่ถูกสั่งผ่าน Grab ในระยะเวลาสัญญา 12 เดือน (นับจากวันที่ลงชื่อเอกสารสัญญา)
ระยะเวลารับเงิน : รับเป็นเงินสด
พื้นที่ให้บริการ : ครอบคลุมหลายจังหวัดทั่วประเทศ
ข้อมูลเพิ่มเติม : www.facebook.com/GrabFoodTH
2. Foodpanda
แอปสั่งอาหารชื่อดังที่ได้รับความนิยมอย่าง Foodpanda ข้อดีของแอปนี้เลยก็คือ มีร้านอาหารให้เลือกได้เยอะ หลากหลาย ทั้งอาหารไทยและต่างประเทศ และฟรีค่าจัดส่ง หากอยู่ร้านอาหารที่เราสั่งนั้น อยู่ในพื้นที่ที่ใกล้กับเรา แต่ถ้าห่างออกไปจะเริ่มต้นที่ 9 บาท ส่วนค่าอาหารขั้นต่ำนั้น ปัจจุบันจะต้องสั่งอาหารขั้นต่ำอยู่ที่ 70 บาท หากเราสั่งอาหารไม่ถึงราคาขั้นต่ำ ก็จะมีส่วนต่างเพิ่มขึ้นมา จนครบ 70 บาท แต่ Foodpanda ก็มักจะมีโปรโมชัน ส่วนลดต่าง ๆ มาให้ผู้ใช้อยู่เสมอ โดยรวมนั้น แอปพลิเคชันนี้ก็ถือเป็นแอปสำหรับสั่งอาหารที่น่าใช้งานพอสมควรเลยทีเดียว
ข้อมูลการสมัคร
แอปพลิเคชั่นร้านค้า : Foodpanda (Foodpanda จะมอบแท็บเล็ตให้ใช้งาน)
ค่าสมัคร : การเข้าร่วมกับ Foodpanda มีค่าแรกเข้า 399 บาท และค่าบริการรายเดือน 99 บาท ในการสมัครทางร้านจะเสียค่าคอมมิชชัน 32%
ค่าคอมมิชชั่น : Foodpanda จะมีการคิดค่าคอมมิชชัน 32% จากมูลค่าของออเดอร์ทั้งหมดที่สั่งผ่าน Foodpanda และจะถูกหัก VAT 7% (สำหรับออเดอร์ที่ชำระบัตรเครคิต จะละเว้นค่าธรรมเนียม 3%) และ Foodpanda มีนโยบายการันตีราคา ร้านค้าจึงไม่สามารถเพิ่มราคาจากราคาปกติที่ลูกค้ารับประทานที่ร้านได้
ระยะเวลารับเงิน : ตัดรอบบิลคือทุกๆ สิ้นเดือน และเงินจะถูกโอนภายในเวลา 15.00 น. ของทุกวันที่ 16-20
พื้นที่ให้บริการ : ครอบคลุมหลายจังหวัดทั่วประเทศ
ข้อมูลเพิ่มเติม : https://www.facebook.com/FoodpandaThailand/
3. LINE MAN
LINE MAN เป็นแอปพลิเคชันสั่งอาหารที่ได้รับความนิยมจากผู้ใช้เป็นอย่างมาก เพราะมีบริการการส่งที่ฟรี หากเป็นร้านค้าที่ห่างจากผู้ใช้อยู่ในระยะ 3 กิโลเมตร แต่หากมีระยะทางที่ห่างกัน เกิน 3 กิโลเมตร ค่าส่งอาหารก็จะเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 10 บาท และสำหรับร้านอาหารหรือร้านค้าที่มีในแอปนั้น ก็มีให้เลือกเยอะแยะมากมาย แถมทาง LINE MAN ยังได้ทำงานร่วมกับเว็บไซต์รีวิวอาหารชื่อดังอย่าง Wongnai ด้วย ทำให้มีอาหารและข้อมูลเกี่ยวกับอาหารที่มากขึ้น โดยผู้ใช้อาจสามารถสั่งอาหารได้จาก เว็บไซต์ของ Wongnai หรือ แอปสั่งอาหารเดลิเวอรี่อย่าง LINE MAN ก็ได้ และนอกจากนี้การจ่ายเงินก็สามารถ ทำได้หลากลหายช่องทาง และมีคูปองส่วนลดค่าอาหารออกมาให้ผู้ใช้ได้นำไปใช้กันบ่อย ๆ ด้วย และที่สำคัญ การสมัครเข้าใช้งานก็ง่ายมาก เพียงแค่เรามีบัญชี LINE ก็สามารถซิงค์ข้อมูลเพื่อเข้าใช้ LINE MAN ได้แล้ว
ข้อมูลการสมัคร
แอปพลิเคชั่นร้านค้า : Wongnai Merchant App (iOS และ Android)
ค่าสมัคร : Free ไม่มีค่าใช้จ่าย
ค่าคอมมิชชั่น : หัก GP 30% (รวม VAT เป็น 32.1%) แต่ร้านอาหารเลือกไม่ให้แอพฯ หัก GP ได้ หากคิดค่าส่งตามระยะทาง
ระยะเวลารับเงิน : รับเป็นเงินสด
พื้นที่ให้บริการ : กรุงเทพฯ และปริมณฑล ชลบุรี อยุธยา
ข้อมูลเพิ่มเติม : www.facebook.com/linemanth
4. Robinhood
แอปพลิเคชันสำหรับสั่งอาหารจากเครือธนาคารไทยพาณิชย์หรือ SCB ที่เพิ่งเปิดตัวไปในช่วงที่ผ่านมาไม่นานนี้เอง ถือว่าเป็นแอปพลิเคชันที่ใหม่ แต่กระนั้นก็ได้ความนิยมและเสียงตอบรับที่ดีจากผู้ใช้งาน แถมยังได้รับการตอบรับจากร้านค้าต่าง ๆ เป็นอย่างดี เนื่องจากร้านค้าที่เข้าร่วมกับ Robinhood นั้น สามารถเข้าร่วมกับแอปนี้ได้โดยไม่มีค่าบริการ โดยทางบริษัท SCB ได้กล่าวว่า ถือเป็นการคืนกำไรให้แก่ลูกค้า ในส่วนของการสมัครนั้น ผู้สมัครก็ต้องมีบัญชีกับทาง SCB เพื่อการใช้จ่ายเงินที่สะดวก รวดเร็ว ได้รับเงินทันที และในการขนส่งนั้น ทาง Robinhood เอง ก็ได้ทำงานร่วมกับ SKOOTAR และอาจมีพาร์ทเนอร์เพิ่มเติมอีกในอนาคต และจะขยายตัวการให้บริการออกไปอีกในอนาคต
ข้อมูลการสมัคร
แอปพลิเคชั่นร้านค้า : Robinhood Shop (ดาวน์โหลดได้ทาง Apple Store และ Play Store)
ค่าสมัคร : Free ไม่มีค่าใช้จ่าย
ค่าคอมมิชชั่น : การเข้าร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กับ Robinhood ไม่โดนหักค่า GP แต่สามารถเลือกเป็นพาร์ทเนอร์แนะนำ โดยจะมีการเก็บเงินค่าขนส่ง Logistic Subsidy 8% ซึ่งจะนำไปลดตรงกับออเดอร์ของลูกค้า
ระยะเวลารับเงิน : ได้รับเงินค่าอาหารเร็วภายใน 1 ชั่วโมง
พื้นที่ให้บริการ : เฉพาะในเขตกรุงเทพมหานคร
ข้อมูลเพิ่มเติม : https://www.facebook.com/RobinhoodDeliveryApp/
5. Shopee Food
จุดเด่นของ ชอปปี้ฟู้ด สำหรับฝั่งผู้บริโภคก็คือ คนที่ใช้งานช้อปปี้ซื้อของออนไลน์เป็นประจำอยู่แล้ว จะทราบว่าสามารถใช้โค้ดส่วนลด หรือโค้ดส่งฟรีอย่างใดอย่างหนึ่ง ผสมกับใช้เหรียญช้อปปี้ (Shopee Coin) ที่ได้จากการซื้อสินค้าที่ร่วมรายการ จ่ายบิล หรือทำกิจกรรมต่างๆ มาเป็นส่วนลดในการสั่งอาหารได้ และสามารถเลือกช่องทางการชำระเงินได้หลากหลายช่องทาง
ข้อมูลการสมัคร
วิธีการสมัคร : แอดไลน์ : @spfoodmerchant
ค่าสมัคร : Free ไม่มีค่าใช้จ่าย
ค่าคอมมิชชั่น : ขึ้นอยู่กับ ข้อตกลง กับ ฝ่ายขาย สัญญามาตรฐาน GP 30%
พื้นที่ให้บริการ : กรุงเทพฯ , นครปฐม , นนทบุรี , ปทุมธานี , สมุทรปราการ , สมุทรสาคร
6. True Food
เป็น แอปพลิเคชันน้องใหม่ เพิ่งเปิดตัวเมื่อเดือนมกราคม 2564 ประเดิมพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีร้านค้าเข้าร่วมกว่า 4,000 ร้านค้า ช่วงแนะนำไม่เก็บค่าจีพีถึง 31 ธันวาคม 2564 ส่วนลูกค้าทรูยังได้รับสิทธิพิเศษ และสามารถใช้คะแนนทรูพอยต์ (True Point) แลกส่วนลดค่าอาหารและค่าส่งรวมสูงสุด 240 บาทอีกด้วย
ข้อมูลการสมัคร
แอปพลิเคชันร้านค้า : True Smart Merchant (ดาวน์โหลดได้ทาง Apple Store และ Play Store)
ค่าสมัคร : Free ไม่มีค่าใช้จ่าย
ค่าคอมมิชชั่น : ไม่มีนโยบายการเรียกเก็บค่าตอบแทน หรือค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมใดๆ ทั้งสิ้นจากร้านค้าที่สมัครเข้าโครงการทรู
ระยะเวลารับเงิน : รับเงินผ่านบัญชี TrueMoney Wallet ภายใน 2 ชั่วโมง
พื้นที่ให้บริการ : เฉพาะในเขตกรุงเทพมหานคร
ข้อมูลเพิ่มเติม : https://www.facebook.com/TrueYouHappiness
ที่มา : อ้างอิงข้อมูล https://notebookspec.com , food.trueid.net