ข่าว

กองทัพบก ส่งอากาศยานไร้คนขับ UAV สนับสนุนภารกิจ "ดับไฟป่าภาคเหนือ"

กองทัพบก ส่งอากาศยานไร้คนขับ UAV สนับสนุนภารกิจ "ดับไฟป่าภาคเหนือ"

17 ก.พ. 2565

กองทัพบกส่ง อากาศยานไร้คนขับ UAV รุ่น Hermes 450 เพื่อบินปฏิบัติภารกิจ ลาดตระเวนเฝ้าระวัง ปัญหาหมอกควัน และสนับสนุน "ดับไฟป่าภาคเหนือ" ช่วงฤดูร้อน พิสัยบินไกลถึง 250 กิโลเมตร และบินได้นานถึง 18 ชั่วโมง

วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2565 พล.ต.ประสิษฐิพงศ์ มูลดี รองผู้บัญชาการกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควัน และฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 พร้อมคณะตรวจเยี่ยม ทีม UAV / อากาศยานไร้คนขับ เพื่อใช้ในการบินลาดตะเวนตรวจจุดความร้อน สนับสนุน "ดับไฟป่าภาคเหนือ" ในห้วงเวลาที่เกิดจุดความร้อน ในพื้นที่ภาคเหนือ ที่กองบิน 41 จังหวัดเชียงใหม่ 

 

กองทัพบก ส่งอากาศยานไร้คนขับ UAV สนับสนุนภารกิจ \"ดับไฟป่าภาคเหนือ\"

 

ภายหลังที่กองทัพบก ได้ให้การสนับสนุนการแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง ในพื้นที่ กองทัพภาคที่ 3 ห้วงวันที่ 14 ก.พ. -15 มี.ค.2565 เพื่อเตรียมการติดตั้งระบบควบคุมภาคพื้นระหว่างทางขับและทางวิ่ง รวมถึงติดตั้ง arresting cable (อุปกรณ์ใช้ร่วมกับระบบขึ้น -ลงอัตโนมัติ) บริเวณขอบทางวิ่ง เมื่อได้รับอนุญาตจากท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่

 

โดยอากาศยานไร้คนขับ UAV รุ่น Hermes(เฮอร์เมส) 450 สามารถปฏิบัติการได้ทั้งกลางวันและกลางคืน มีเพดานบินสูงสุด 18,000 feet บินได้นาน 18 ชั่วโมง พิสัยปฏิบัติการ 250 กิโลเมตร น้ำหนักระบบ 345 กิโลกรัม สามารถวิ่งขึ้นด้วยน้ำหนักบรรทุกสูงสุดได้ 490 กิโลกรัม
 

 

พล.ต.ประสิษฐิพงศ์ มูลดี กล่าวว่า สำหรับอากาศยานไร้คนขับ UAV ทางกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ได้รับการสนับสนุนจากกองทัพบก เพื่อปฏิบัติการ ISR (Intelligence Surveillance and Reconnaissance) โดยการใช้เครือข่ายเป็นศูนย์กลาง ใช้ระบบตรวจจับ หรือ Sensor จากอากาศยานไร้คนขับ และข้อมูลจากดาวเทียม เพื่อการหาจุดความร้อน (Hotspot) ที่เป็นแหล่งกำเนิดของไฟ

 

กองทัพบก ส่งอากาศยานไร้คนขับ UAV สนับสนุนภารกิจ \"ดับไฟป่าภาคเหนือ\"

 

โดยทำการบูรณาการสัญญาณภาพจากระบบตรวจจับทุกส่วน รวบรวมส่งมายังส่วนบัญชาการและควบคุมในลักษณะ Near Real Time เพื่อให้ผู้บัญชาการสถานการณ์ และหน่วยปฏิบัติในพื้นที่ทราบถึงพิกัดและเข้าควบคุมไฟป่าได้อย่างรวดเร็ว และแม่นยำ รวมทั้งจัดทำเป้าหมายที่ตรวจพบให้กับกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า และศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) จังหวัดเชียงใหม่

 

เพื่อวางแผนจัดชุดดับไฟป่า ชุดลาดตระเวน เข้าไปยังพื้นที่รับผิดชอบ ซึ่งจะทำให้การดับไฟป่าแต่ละครั้งตรงจุดและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งนี้อากาศยานไร้คนขับ (UAV) สามารถตรวจจับจุดความร้อนที่เป็นลักษณะไฟที่มอด แต่ยังมีเชื้อไฟที่มีขนาดเล็กได้ ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถทำการดับไฟป่าได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว

 

พล.ต.ประสิษฐิพงศ์ กล่าวต่อว่า สำหรับสถานการณ์จุดความร้อนในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ (ดาวเทียมระบบ VIIRS) ห้วงวันที่ 16 ก.พ.2565 พบเกิดจุดความร้อนสะสมจำนวน 194 จุด น้อยกว่าวันเดียวกันของปี 64 จำนวน 735 จุด ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.2564 – 16 ก.พ.2565 เกิดจุดความร้อนสะสม 12,067 จุด

 

กองทัพบก ส่งอากาศยานไร้คนขับ UAV สนับสนุนภารกิจ \"ดับไฟป่าภาคเหนือ\"

เมื่อเทียบปี 2564 ( 20,937 ) ลดลง 8,870 จุด คิดเป็น 42.37 % เมื่อเทียบปี 2563 ( 47,213 ) ลดลง 35,146 จุด คิดเป็น 74.44 % ซึ่งจุดความร้อนวันนี้พบในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ,เชียงใหม่ น่าน และจังหวัดลำปาง โดยพบพื้นที่อนุรักษ์ 96 จุด พื้นที่ป่าสงวน 82 จุด เมื่อนำไปเปรียบเทียบกับเมื่อวาน พื้นที่เผาไหม้ลดลง ค่าฝุ่นละอองลดลง สภาพอากาศโดยรวมดีขึ้น

 

จากข้อมูลขั้นต้นพบว่า ตั้งแต่วันที่ 1 – 16 ก.พ.2565 พบว่าจังหวัดที่มีจุดความร้อนสะสมสูงกว่าปี 64 ในห้วงเวลาเดียวกัน 6 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ , จังหวัดเชียงราย , จังหวัดตาก , จังหวัดนครสวรรค์ , จังหวัดน่าน และจังหวัดลำปาง