ส.ต.ต.นรวิชญ์ อ่วมหนัก อัยการส่งฟ้อง 9 ข้อหา คดีซิ่งบิ๊กไบค์ชน "หมอกระต่าย"
"ส.ต.ต.นรวิชญ์" ตำรวจ คฝ. ซิ่งบิ๊กไบค์ชน "หมอกระต่าย" เสียชีวิต อ่วมหนัก อัยการส่งฟ้องศาลอาญา 9 ข้อหา พร้อมขอศาลยึดรถของกลาง เพิกถอนใบขับขี่ ประกาศชัดญาติสามารถยื่นฟ้อง เรียกค่าเสียหายในคดีได้
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (22 ก.พ.) ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 3 นัดฟังคำสั่งฟ้องคดีที่ ส.ต.ต.นรวิชญ์ บัวดก ผบ.หมู่ กองร้อยที่ 2 กองกำกับการ 1 กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน (กก.1 บก.อคฝ.) เป็นผู้ต้องหาขี่จักรยานยนต์บิ๊กไบค์ ยี่ห้อดูคาติ รุ่นมอนสเตอร์ ทะเบียน 1 กผ 9942 ชน พญ.วราลัคน์ หรือ สุภวัตรจริยากุล หรือ "หมอกระต่าย" จักษุแพทย์ ภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ขณะกำลังเดินข้ามทางม้าลายใกล้แยกพญาไท จนเสียชีวิต เมื่อวันที่ 21 ม.ค.2565
โดยในวันนี้ ส.ต.ต.นรวิชญ์ ผู้ต้องหา เดินทางมาฟังคำสั่งพร้อมกับทนายความ โดยมีสีหน้าเคร่งเครียด และมีอาการโศกเศร้า
เกี่ยวกับคดีดังกล่าว นายอิทธิพร แก้วทิพย์ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา ในฐานะโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า วันนี้พนักงานอัยการนัดผู้ต้องหามาฟังคำสั่ง หลังจากได้พิจารณาแล้ว พนักงานอัยการมีคำสั่งฟ้องผู้ต้องหาทุกข้อหาที่พนักงานสอบสวน สน.พญาไท ตั้งไว้ 9 ข้อหา และนอกจากคำสั่งฟ้องแล้ว พนักงานอัยการมีคำขอให้ยึดรถจักรยานยนต์ รวมทั้งขอให้ศาลเพิกถอนหรือพักใช้ใบอนุญาตขับขี่รถจักรยานยนต์ของผู้ต้องหาด้วย
โดยข้อหาแรก คือ นำรถที่ไม่ได้ติดแผ่นป้ายทะเบียนมาใช้ในทางเดินรถ ,ฝ่าฝืนใช้รถที่ไม่ได้เสียภาษีประจำปี,ใช้รถที่ไม่ได้จัดให้มีการประกันความเสียหายผู้ประสบภัย ,นำรถไม่สมบูรณ์มาขับเพราะไม่ติดกระจกมองข้าง, ขับรถไม่ชิดขอบทางด้านซ้าย, ขับรถจักรยานยนต์เร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด
ขับรถโดยไม่คํานึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น, ขับรถโดยไม่ปฏิบัติตามเครื่องหมายบนพื้นทาง,ขับรถโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียว อันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลอื่นหรือทรัพย์สิน กระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย โดยวันนี้พนักงานอัยการจะนำตัวผู้ต้องหาไปยื่นฟ้องต่อศาลทันที
นายอิทธิพร กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับเรื่องรถถูกต้องหรือไม่ และการขับรถโดยประมาทเป็นคนละเรื่องกัน หากรถไม่ถูกต้องตามกฎหมาย พนักงานสอบสวน ก็คงจะต้องทำคดีอีกสำนวนหนึ่งไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า อัยการให้ตำรวจไปสอบสวนเพิ่มเติมเกี่ยวกับสารเสพติดหรือปริมาณแอลกอฮอล์หรือไม่ นายธวัชชัย หัตถะปนิตร์ อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 3 เจ้าของสำนวนคดี กล่าวว่า ไม่มีการสั่งสอบเพิ่มเพราะพนักงานสอบสวนตรวจสอบแล้วไม่พบว่ามีกลิ่นแอลกอฮอล์จากผู้ต้องหา ซึ่งในสำนวนคดีนั้นก็มีการแจ้งผลการตรวจแอลกอฮอล์แล้ว ซึ่งไม่พบปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายผู้ต้องหาและไม่ได้สั่งให้ตำรวจสอบสวนเพิ่มเติมเนื่องจากครบถ้วนทุกประเด็นแล้ว
ทางด้านนายประยุทธ เพชรคุณ รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ ในฐานะรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวเพิ่มว่า ประเด็นที่อัยการเสนอให้ศาลพิจารณามี 2 กรณี คือการขอเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ตลอดชีวิต ไม่ให้ทำใบขับขี่ กับกรณีที่ 2 คือการขอพักใช้ ส่วนจะมีการพักใช้กี่ปีนั้น ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล ส่วนการขอยึดรถนั้นเนื่องจากในคำฟ้อง มีข้อหาที่ 7 เกี่ยวกับการขับรถไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น เหมือนกับกลุ่มที่แข่งรถ ซึ่งกฎหมายถือว่า รถเป็นทรัพย์ที่ใช้ในการกระทำความผิด คดีนี้เราจึงขอริบรถจักรยานยนต์ด้วย ส่วนประเด็นที่ว่ารถถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่นั้น ทางตำรวจไม่มีการแจ้งแสดงว่ารถนั้นถูกต้องตามกฎหมาย หากรถไม่ถูกต้องตามกฎหมายจะมีการดำเนินคดีอีกส่วนหนึ่ง
นายประยุทธ กล่าวอีกว่า ในการสั่งคดี อัยการเจ้าของสำนวนมีคำสั่งให้แจ้งกับผู้เสียหายว่า ผู้เสียหายสามารถมาขอยื่นขอค่าเสียหายได้ตามมาตรา 44/1 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา เนื่องจากการขอตามมาตรานี้นั้นเป็นการขอให้ผู้เสียหายมาเรียกร้องจากจำเลยที่เราฟ้อง แต่ไม่สามารถมายื่นคำขอเอากับบุคคลอื่นนอกคดีได้ ส่วนที่ครอบครัวผู้เสียหายไปฟ้องศาลแพ่งนั้นก็เป็นสิทธิ์ตามกฎหมายทางอัยการจะไม่ก้าวล่วง
อย่างไรก็ตาม สำหรับระเบียบอัยการนั้น แจ้งว่าผู้เสียหายมีสิทธิ์ที่จะเรียกค่าเสียหายทุกอย่าง โดยจะต้องมาประสานกับทางอัยการและอัยการจะแนะนำให้ไปยื่นคำร้อง และในขั้นตอนสืบพยานทางอัยการจะมีการถาม ในประเด็นค่าเสียหาย แต่ต้องมายื่นก่อนที่ ศาลจะมีคำพิพากษา กรณีที่จำเลยรับสารภาพ หรือต้องยื่นก่อนศาลสืบพยานนัดแรกในกรณีจำเลยปฏิเสธ
หลังจากพนักงานอัยการแจ้งคำสั่งฟ้องคดีแล้วได้นำตัว ส.ต.ต.นรวิชญ์ ผู้ต้องหาไปยื่นฟ้องเป็นจำเลยต่อศาลอาญา รัชดาต่อไป