แม่สุดช้ำ "ลูกแท้ ๆ" กดเงินแสนหมดบัญชี แถมขโมย "สร้อยทอง" ใส่ของปลอมไว้แทน
แม่สุดช้ำ ร้องสื่อ "ลูกแท้ ๆ " แอบกดเงินหลักแสนเกลี้ยงหมดบัญชี แถมยังขโมย "สร้อยคอทองคำ" แอบไปขายแล้วนำทองปลอมมาเปลี่ยน แม้แต่เงินผู้สูงอายุก็ยังกดไปด้วย จึงแจ้งความกับตำรวจเอาผิด "ลูกแท้ ๆ" ให้เป็นคดีตัวอย่าง
23 ก.พ. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสาวน้อย (สงวนนามสกุล) อายุ 55 ปี ผู้เป็นแม่ได้ร้องเรียนต่อสื่อมวลชนหลังแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับ นาสาวรจนา อายุ 29 ปี ซึ่งเป็น ลูกสาวแท้ๆ ของตนเอง หลังจากที่ ลูกสาวแอบกดเงินในบัญชีธนาคาร จำนวนกว่า 140,000 บาท ของตนเองไปจนเกลี้ยงบัญชี นอกจากนั้นยังได้นำเอาสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท ของตนไปขาย แล้วนำทองปลอมมาเปลี่ยนไว้แทน โดยได้นำหลักฐานทั้งหมดที่ขอมาจากธนาคาร และทองปลอม พร้อมรูปถ่ายลูกสาวให้ผู้สื่อข่าวได้ดู พร้อมทั้งได้ไปแจ้งความดำเนินคดีกับลูกสาว เมื่อวันที่ 19 ก.พ. ที่ผ่านมา ที่สถานีตำรวจภูธรคลองขลุง
นางสาวน้อย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 5 พ.ย. 2564 ที่ผ่านมา ตนได้เดินทางไปกับลูกสาวเพื่อนำเงินสดค่าเช่าที่นา ไปฝากที่ ธนาคารออมสิน สาขาคลองขลุง จำนวน 140,000 บาท ซึ่งตนไม่รู้หนังสือ ก็ได้ให้ลูกสาวจัดการฝากใส่สมุดบัญชีตามยอดข้างต้น ในชื่อบัญชีของตนเองคือ นางสาวน้อย ซึ่งในระหว่างดำเนินการฝากเงินนั้น ตนก็เห็นว่าเงินถูกฝากจริง และได้ปรับสมุดเป็นยอดปัจจุบันแล้ว แต่ไม่ได้สังเกตว่าลูกสาวได้แอบทำบัตร ATM มาด้วย ซึ่งตนยอมรับว่าในระหว่างฝากที่เคาท์เตอร์ธนาคาร ลูกสาวให้เซ็นอะไรก็เซ็น ซึ่งตลอดระยะเวลาฝากเงินในบัญชีไม่เคยนำเงินออกมาจากบัญชีและไปปรับสมุดเลย จนกระทั่งตนมีความจำเป็นต้องใช้เงิน จึงนำสมุดบัญชีไปถอนเงิน แต่กลับเหลือเงินติดบัญชีเพียง 29 บาทเท่านั้น
ตนตกใจมากว่าเงินหายไปไหน แต่นึกขึ้นได้ว่ามีทองคำ 1 บาทอยู่ จึงให้หลานสาวพาตนไปที่ร้านทอง เพื่อนำทองที่เก็บไว้ไปขาย เมื่อถึงร้านทองพบว่าเป็นทองปลอม ตนเองจึงรีบไปแจ้งความและไปขอเอกสารการเดินบัญชีทั้งหมดกับธนาคาร แล้วส่งมอบให้ตำรวจตรวจสอบ โดยดูลักษณะการถอนเงินจากบัญชี มีการไหลเข้าออกอยู่เรื่อย ๆ ประมาณ 3 สัปดาห์ จนสุดท้ายกดเงินหมดบัญชีเหลือเพียง 29 บาท เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2564
นางสาวน้อย กล่าวอีกว่า หลังจากเกิดเหตุแล้ว ตนเองได้ไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะมั่นใจว่าลูกสาวแท้ ๆเป็นผู้ก่อเหตุ ก่อนที่จะรู้ว่าเงินหายลูกสาวได้หายตัวไปแล้วหลายวัน จนเอาสมุดมาปรับก็ไม่มีเงินในบัญชีแล้ว ที่อยากร้องสื่อให้นำเสนอเรื่องนี้ เพราะอยากให้เป็นเรื่องเตือนใจสังคม และอยากให้ตำรวจตามจับลูกสาวมาดำเนินคดีให้เข็ดหลาบ และไม่อยากให้ไปหลอกใครอีก ทุกวันนี้ก็เลี้ยงหลานอยู่ 2 คน ซึ่งเป็นลูกของ น.ส.รจนา และที่ผ่านมาลูกสาวแท้ ๆ มีพฤติกรรมขโมยเงินทอง แม้บัตรคนจนก็เอาไปหมด
ศุทธิกาญจน์ ธนบวรเวศม์ ผู้สื่อข่าว จ.กำแพงเพชร