ครูกว่า 2 หมื่นคน ลงทะเบียน "แก้หนี้ครู" แล้ว
"แก้หนี้ครู" จำนวน 1.4 ล้านล้านบาท มีครูลงทะเบียนแก้นี้กับ "ครูเหน่ง ตรีนุช" แล้วกว่า 20,000 คน ศธ.เตรียมประมวลเหตุครูก่อหนี้-จัดอันดับ หวังแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด เรียนรู้บทเรียนจากสหกรณ์ออมทรัพย์ครู ที่ประสพความสำเร็จ เช็ครายละเอียดที่นี่
มาตรการ "แก้หนี้ครู" ที่มีจำนวน 1.4 ล้านล้านบาท จากลูกหนี้กว่า 900,000 คน ของกระทรวงศึกษาธิการ ยุค “ครูเหน่ง ตรีนุช” เดินทางมาถึงวันที่มีข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาเข้าร่วมโครงการตัวเลขหลักหมื่นแล้ว
เกี่ยวกับเรื่องนี้ นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เปิดเผยภายหลังการดูงานการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษา ของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูราชบุรี จำกัด ที่จังหวัดราชบุรี ว่า รัฐบาลโดย พล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กำหนดให้ปีนี้เป็นปีแห่งการแก้หนี้ภาคครัวเรือน
และมีการบูรณาการ “แก้หนี้นครู” อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อให้ปัญหาหนี้สินครูและบุคลากร ทางการศึกษาได้รับการเยียวยาช่วยเหลือ เพื่อทุกครัวเรือนมีชีวิตความเป็นอยู่ ที่ดีขึ้น
ซึ่งสหกรณ์ออมทรัพย์ครูราชบุรี เป็นหนึ่งใน 70 สหกรณ์ออมทรัพย์ครูต้นแบบที่เข้าร่วมแก้ไขหนี้สินครูฯ
ด้วยแนวทางการช่วยเหลือสมาชิกที่หลากหลาย อาทิ การปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้ลง เพื่อช่วยเหลือสมาชิกสามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำร้อยละ 4.90 ต่อปี
ถือเป็น 1 ในสหกรณ์ 10 แห่งที่ได้ลดดอกเบี้ยลงจนเหลือต่ำกว่าร้อยละ 5
เป็นสหกรณ์ที่มีความเข้มแข็งไม่ได้กู้ยืมเงินที่อื่นมาดำเนินการ
มีการปรับโครงสร้างหนี้หรือรวมหนี้ เพื่อช่วยเหลือสมาชิกที่มีเงินเดือนติดลบ ให้มีเงินเดือนคงเหลือใช้จ่ายไม่น้อย
กว่าร้อยละ 30 ซึ่งเป็นเป้าหมายพื้นฐานหลักของนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ ที่ต้องการเห็นครูและบุคลากรทางการศึกษา ได้รับการยกระดับคุณภาพชีวิต ลดข้อกังวล
ในการดำเนินชีวิตประจำวันให้ได้มากที่สุด ซึ่งจะส่งผลให้คุณครูสามารถปฏิบัติหน้าที่ของตนเองได้อย่างเต็มศักยภาพ โดยเฉพาะเรื่องของการพัฒนาการเรียนการสอน ซึ่งจะส่งผลต่อเด็กและเยาวชนของเรา ที่จะเติบโตเป็นบุคลากรที่มีคุณภาพ และเป็นกำลังสำคัญของประเทศต่อไป
น.ส.ตรีนุช กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้กระทรวงศึกษาธิการ ได้ตั้งคณะกรรมการแก้ไขหนี้สินครู หรือ สถานีแก้หนี้ครู ขึ้น 2 ระดับ คือ ระดับจังหวัด และระดับเขตพื้นที่ รวมทั้งเปิดรับลงทะเบียนครูที่ต้องการเข้ารับการแก้ไขปัญหาหนี้สิน ซึ่งมีผู้ลงทะเบียนแล้วกว่า 20,000 ราย
โดยยังคงเปิดรับการลงทะเบียนไปเรื่อยๆ ไม่มีกำหนดปิด อย่างไรก็ตามเมื่อครบการเปิดลงทะเบียน 1 เดือนในวันที่ 15 มีนาคมนี้จะมีการประมวลผลว่าครูมีปัญหาเรื่องใดมากที่สุด เพื่อจัดลำดับการแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด
“ การดำเนินการเพื่อช่วยเหลือครู และบุคลากรทางการศึกษาอย่างเป็นระบบในครั้งนี้ จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือทั้งจากหน่วยงานภายในของกระทรวงศึกษาธิการ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการเงินต่างๆ
และที่ขาดไม่ได้ คือสหกรณ์ออมทรัพย์ครูที่จะเป็นกลไกสำคัญของการ “แก้หนี้ครู” ให้ประสบความความสำเร็จ วันนี้ดิฉันได้เห็นโมเดลต่างๆที่เป็นประโยชน์ และจะนำรูปแบบที่เหมาะสมไปปรับใช้กับสหกรณ์อื่นๆ" นางสาวตรีนุช กล่าว