อดีตผู้ว่าฯ สตง.จับมือ"สมาคมสื่อต้านโกง" จี้รัฐเช็กบิลการ"ลอบทิ้งขยะพิษ"
อดีตผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน หรือ "สตง."จี้หน่วยงานรัฐ ช็กบิลบริษัทขาใหญ่"ลอบทิ้งขยะพิษ"ในพื้นที่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ชี้ส่วนหนึ่งมาจาก จนท.รัฐปล่อยปละละเลย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมาคมผู้สื่อข่าวต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่กรอกสมบูรณ์ ต.ลาดตะเคียน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี จึงได้ประสานนายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส อดีตผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ปรากฏว่ามีรถบรรทุก"กากอุตสาหกรรม" จากกลุ่มบริษัทใน"ตลาดหลักทรัพย์"แห่งประเทศไทย วิ่งเข้า-ออกในพื้นที่แต่ละวันหลายสิบเที่ยว ซึ่งพื้นที่แห่งนี้มีโรงงานรับกำจัด"กากอุตสาหกรรม"ที่ไม่เป็นอันตรายอยู่บริเวณดังกล่าว
ด้าน นายพลศักดิ์ สุพร เลขาธิการสมาคมผู้สื่อข่าวต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่กรอกสมบูรณ์ว่า ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก เนื่องจากมี"รถขนถ่ายขยะ"จำนวนมาก นำขยะมาทิ้งวันละหลายเที่ยว ส่งผลให้เกิด"มลพิษ"ในพื้นที่ โดยเฉพาะกลิ่นเหม็นและสารพิษที่ไหลลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ
"จากการลงพื้นที่พบว่า มีรถบรรทุก มีกระบะสีเขียวจากพื้นที่สระบุรี และสีเทาจากพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ และรถบรรทุกน้ำจากพื้นที่ชลบุรี นำขยะมาทิ้งในพื้นที่แห่งนี้ โดยทีมงานได้เฝ้าเกาะติดพื้นที่มาก่อนหน้านี้แล้วเป็นเวลากว่า 1 เดือน สามารถบันทึก"คลิปวิดีโอ"เส้นทางที่รถบรรทุก นำขยะมาทิ้งภายในบริเวณ"โรงงานฝังกลบขยะ"ไม่อันตรายแห่งนี้ ซึ่งทีมงานไม่แน่ใจว่าขยะดังกล่าวเป็น"ขยะอันตราย"หรือไม่ โรงงานแห่งนี้สามารถรับขยะทั้งหมดได้หรือไม่ หรือมีการว่าจ้างให้ขนส่งมาในพื้นที่นี้หรือไม่ แต่มีข้อที่น่าสังเกต กล่าวคือรถบรรทุกที่มีกระบะสีเขียวจากพื้นที่สระบุรี และสีเทาจากพื้นที่สมุทรปราการ มีสถานที่กำจัดเป็นของตนเอง และเป็นสถานที่ที่ได้รับ"สัมปทานจากภาครัฐ"ในการกำจัดกากฯ ซึ่งเป็นทรัพย์สินของทางราชการวิ่งออกนอกเส้นทางนำขยะมาทิ้งที่จังหวัดปราจีนบุรีได้อย่างไร" นายพรศักดิ์ กล่าว
ก่อนหน้านี้ "กรมโรงงานอุตสาหกรรม"ได้กวดขันอย่างเข้มงวด มีการสั่งปิด"โรงงานกำจัดขยะ"ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี เนื่องจากกำจัดขยะผิดประเภท ดังนั้นในกรณีนี้ ก็ควรลงมาตรวจสอบว่า ในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรีมีการนำขยะมาทิ้งผิดประเภทหรือไม่อย่างไร ทั้งนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องเร่งกันตรวจสอบว่า กากฯเหล่านี้มีฝบกำกับชนส่งมาจากที่ใด
ด้าน นายพิศิษฐ์ ลีลาวิชิโรภาส กล่าวว่า "การลักลอบทิ้งขยะพิษ" หรือ"กากขยะอุตสาหกรรม"โดยไม่ได้รับอนุญาต ถือเป็นความโลภ ความเห็นแก่ตัวของผู้ประกอบการ ถ้ารู้จักประกอบการค้าอย่างซื่อตรง มีหลักจริยธรรม คำนึงถึง"ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม" หรือสภาพแวดล้อมที่ส่งผลกระทบต่อประชาชน ก็คงจะไม่เกิดปัญหา จากการลงพื้นที่ทำให้มีข้อสังเกตว่า เจ้าหน้าที่รัฐจะมีส่วนรู้เห็นด้วยหรือไม่ เนื่องจากมีรถดับเพลิงของเทศบาลฯเข้าไปในพื้นที่ด้วย ยิ่งสนับสนุนว่า สิ่งที่เกิดขึ้นจนสร้างผลกระทบกับชาวบ้าน และส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ส่วนหนึ่งมาจากเจ้าหน้าที่ของรัฐ "ปล่อยปละละเลย" ขาดความเอาใจใส่ หรือน่าจะมี"ประโยชน์ทับซ้อน"หรือไม่ ทำให้มองไม่เห็นถึงพิษภัยที่เกิดขึ้น สุดท้ายก็วนเวียนซ้ำซาก กับการต้องใช้งบประมาณมาจ้างเอกชนหน้าเดิมๆ กำจัดสิ้นเปลื้องเงินแผ่นดินไม่รู้จักจบสิ้น