ข่าว

รอง อธ.อัยการศาลเเขวงเปิดโทษ จากเคส "อิศเรศ" สับศอกใส่คู่เเข่ง

รอง อธ.อัยการศาลเเขวงเปิดโทษ จากเคส "อิศเรศ" สับศอกใส่คู่เเข่ง

15 มี.ค. 2565

นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รอง อธ.อัยการศาลเเขวงเปิดโทษคดีทำร้ายร่างกาย จากเคส "อิศเรศ น้อยใจบุญ" สับศอกในสนามบอลใส่คู่เเข่ง ผิดอาญา ชดใช้เเพ่ง ฝากข้อคิดต้องมีสติ รู้กลืนกล้ำ เลิศล้ำเป็นยอดคน

                

เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 65  นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีศาลเเขวง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึง กรณี "นายอิศเรศ น้อยใจบุญ" นักฟุตบอล กองกลางของทีมบางกอก เอฟซี หลังก่อเหตุรุนแรง ฟันศอกใส่ นายศุภสัณฑ์ เรืองศุภนิมิต นักเตะของทีมมหาวิทยาลัยนอร์ธกรุงเทพ ในการแข่งขันมังกรฟ้าลีก ไทยลีก 3 รอบเพลย์ออฟ เมื่อวันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา (อ่านข่าว: เลิกสัญญา "อิศเรศ บางกอกเอฟซี" ฟันศอกเจ้าถิ่น นอร์ทกรุงเทพ เย็บ 24 เข็ม มีคลิป)

 

ในเกมส์มีกรรมการ นอกเกมส์มีตำรวจ มีกฎหมายตัดสิน ถ้าอยากตัดสินเองต้องพร้อมตกเป็นผู้ต้องหา
..รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย นำ้ใจนักกีฬา..!
#อัยการหนุ่ยบอกให้รู้

 

กีฬา..ถ้าขาดสติ เปลี่ยนประเภทจากฟุตบอลเป็นมวย จะไปไม่สวยเพราะนอกเกมส์ ชีวิตอาจจะเกมส์ ผมเห็นข่าวนักฟุตบอล ฟันศอกซ้ายเข้าเต็มๆที่หน้า ในสนามบอล ไม่ใช่สนามมวย เห็นข่าวครั้งแรกตกใจ เพราะอัยการ จะคิดถึงกฏหมายทันที สิ่งที่เห็นตามภาพข่าวคือ เจตนาทำร้ายร่างกาย..! คิดถึงผลที่ตามมาคือ ? ข้อหาทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัส คือถ้ารักษาเกิน 20 วัน โทษ จำคุกตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 10 ปี และ ปรับตั้งแต่ 10,000 บาท ถึง 200,000 บาท ถ้าไม่สาหัส จำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือ ทั้งจำ ทั้งปรับ  

 

ค่าเสียหายทางแพ่งต้องรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด ทำงานรายวันทั้งหมด หรือ ความเสียหายอื่นๆที่เกิดจากการใช้ชีวิตปกติไม่ต้องรับผิดชอบด้วย  คิดเป็นเงินคงหนักหนาสาหัสเช่นกัน ตามข่าวเห็นว่าเข้าเอกซเรย์ สแกนสมอง พบว่ากระดูกหน้าร้าว แผลแตกเย็บไป 24 เข็มยังไม่สามารถรับประทานอาหารได้  (อ่านข่าว: เหตุนักบอลฟันศอก "ศุภสัณฑ์ เรืองศุภนิมิต" พบกระดูกใบหน้าร้าว)  ทีมฟุตบอลต้นสังกัดของผู้บาดเจ็บประกาศเอาเรื่องเต็มที่

 

ต่อไปนี้คงเจอทั้งคดีแพ่งและคดีอาญา ตามมา  เพราะขาดสติเปลี่ยนประเภทฟุตบอลเป็นมวยนอกเกมส์ ต้นสังกัดประกาศขับนักฟุตบอลหัวร้อนออกชาวบ้านก็เข้าใจได้ว่าไล่ออกแล้ว เสียประวัติภาพข่าวปรากฏไปทั่วประเทศ แม้เจ้าตัวออกมาขอโทษ แต่ถ้ามีสติคงไม่ต้องขอโทษ สติจะหยุดตัวเราไม่ให้ทำเรื่องไม่ดี โดนเข้าไปขนาดนี้อาจดับอนาคตทางกีฬาฟุตบอล เสียโอกาสได้เล่นเกมส์ที่ตนเองรัก

 

เป็นบทเรียนที่แม้จะออกมาขอโทษแล้ว แต่ก็บอกว่าเพราะเขาเข้ามาเตะผมทางด้านหลังก่อน เกมส์ มีกติกานะครับถ้าเค้าเตะคุณด้านหลังกรรมการต้องเป็นคนพิจารณาลงโทษ ไม่ใช่คุณตรงเข้าฟันศอกคืน อย่างนี้เรียกว่าไร้กติกา ขาดสติลุแก่โทสะ ผลการกระทำต้องตามมาแน่นอน 

      

ส่วนค่าเสียหายที่อาจถูกฟ้องร้องดำเนินคดี ทางแพ่งรักษาพยาบาลเช่นนี้น่าจะเกิน 100,000 ทางอาญาอัตราโทษ ทางอาญา ก็ไม่เบา ต้องลุ้นขอให้ศาลรอลงอาญาถ้าไม่รอ มีโอกาสเข้าเรือนจำได้ 

 

ฝากกันไว้นะครับชีวิตประจำวันต้องมีสติ ถูกข่มเหงรังแก ในเกมส์มีกรรมการ นอกเกมส์มีตำรวจ มีกฎหมายตัดสิน ถ้าอยากตัดสินเองต้องพร้อมตกเป็นผู้ต้องหาตามกฏหมายไม่เคยอนุญาตให้ใครตัดสินกันเอง…!!

 

รู้กลืนกล้ำ เลิศล้ำ ความเป็นยอดคน อดทนอะไรไม่ได้ ชีวิตจะไปต่อลำบาก สติ ครับสติจะช่วยให้เรารู้จักคำว่าอดทน.?

 

มาตรา 297 ผู้ใดกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกาย จนเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำร้ายรับอันตรายสาหัส ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงสิบปี และปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาทถึงสองแสนบาท               
         

อันตรายสาหัสนั้น คือ               

        (1) ตาบอด หูหนวก ลิ้นขาด หรือเสียฆานประสาท               
        (2) เสียอวัยวะสืบพันธุ์ หรือความสามารถสืบพันธุ์              
        (3) เสียแขน ขา มือ เท้า นิ้วหรืออวัยวะอื่นใด            
        (4) หน้าเสียโฉมอย่างติดตัว                       
        (5) แท้งลูก          
        (6) จิตพิการอย่างติดตัว            
        (7) ทุพพลภาพ หรือป่วยเจ็บเรื้อรังซึ่งอาจถึงตลอดชีวิต            
        (8) ทุพพลภาพ หรือป่วยเจ็บด้วยอาการทุกขเวทนาเกินกว่ายี่สิบวัน หรือจนประกอบกรณียกิจตามปกติไม่ได้เกินกว่ายี่สิบวัน

 

มาตรา 295 ผู้ใดทำร้ายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจของผู้อื่นนั้น ผู้นั้นกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ