รวบทันควัน อดีตรปภ. "กระชากกระเป๋า" พญ.ท้องแก่ สารภาพหาเงินซื้อ "ยาเสพติด"
ตำรวจ ทุ่งมหาเมฆ ตามรวบ อดีต รปภ.โรงพยาบาล "กระชากกระเป๋า" พญ.ท้องแก่ 8 เดือน เจ้าตัวฮึดสู้ ทำให้หน้ากระแทกลิฟท์ ขณะที่คนร้าย ถอดชุดทิ้งก่อนขี่จยย.หลบหนี
1 เม.ย.2565 ตำรวจ สน.ทุ่งมหาเมฆ จับกุมนายสุทธิพงษ์ หรือ โอ๊ต (สงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี อดีตพนักงานรักษาความปลอด ผู้ต้องหาก่อเหตุ กระชากกระเป๋า แพทย์หญิง ซึ่งอยู่ระหว่างตั้งครรภ์ 8 เดือน โดยเหตุเกิดภายในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ขณะที่ แพทย์หญิง ผู้เสียหายกำลังเดินออกจากลิฟท์ โดยผู้เสียหาย ได้พยายามยื้อแย่งกระเป๋า จนหน้ากระแทกกับลิฟท์ได้รับบาดเจ็บ ส่วนผู้ต้องหาได้ถอดเสื้อคลุม กางเกงขายาว รองเท้าผ้าใบทิ้งไว้ ก่อนขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 31 มี.ค.2565 เวลา 16.49 น. ภายในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งที่ผู้เสียหายทำงานอยู่
หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางหลบหนี พบว่าหลังจากก่อเหตุ คนร้ายขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีมุ่งหน้ากลับที่พัก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานและขออนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหา และสามารถจับกุมตัวได้ที่ ห้องเช่าไม่มีเลขที่ ซอยตากสิน 21 เขตธนบุรี กรุงเทพฯ
เบื้องต้นจากการสอบปากคำ ผู้ต้องหาให้การว่ารับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุดังกล่าวจริง โดยได้เดินตาม แพทย์หญิง ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นแพทย์ประจำโรงพยาบาลที่เกิดเหตุ เข้าไปในลิฟท์โดยสาร จากนั้นอาศัยจังหวะที่อยู่ตามลำพังกับผู้เสียหาย ได้กระชากกระเป๋าสะพายของผู้เสียหาย แต่ผู้เสียหายได้พยายามยื้อแย่งจนหน้าไปกระแทกกับลิฟท์ได้รับบาดเจ็บ เป็นจังหวะเดียวกับที่ประตูลิฟท์เปิดออก ผู้ต้องหาจึงใช้กำลังเพื่อให้ผู้เสียหายออกจากลิฟท์ไป
จากนั้นคนร้ายได้ถอดเสื้อคลุม กางเกงยีนส์ขายาว และรองเท้าผ้าใบ ทิ้ง เพื่อสะดวกต่อการหลบหนี ก่อนที่จะมานำรถจักรยานยนต์ ขับขี่หลบหนีออกไปจากโรงพยาบาล และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมได้ในที่สุด
นายสุทธิพงษ์ ผู้ต้องหา เคยทำงานเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยของโรงพยาบาล เมื่อประมาณปี พ.ศ.2560 ภายหลังได้ออกไปทำงานเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยหลายแห่ง และล่าสุดเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัย ย่านบางบอน ออกจากงานเมื่อ 20 มี.ค.2565 ที่ผ่านมา และผู้ต้องหายังให้การว่าก่อเหตุเพื่อต้องการหาเงินไปเสพยาเสพติด
เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาว่า “ชิงทรัพย์ เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ โดยใช้ยานพาหนะ และ เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย”