2 สาวขับเก๋งกลับบ้าน "สงกรานต์" เปิด "GPS" นำทางพา "ตกคลอง" หนีรอดหวุดหวิด
2 สาวขับเก๋งกลับบ้านเกิดจ.ขอนแก่นเพื่อฉลอง "สงกรานต์" ไม่ชินเส้นทางเปิด "GPS" นำทางกลับพา "ตกคลอง" ทั้งรถ หนีรอดออกมาได้หวุดหวิด
13 เม.ย.2565 เมื่อเวลาประมาณ 00.30 น. ศูนย์วิทยุสื่อสาร สภ.กบินทร์บุรี รับแจ้งเหตุจากศูนย์วิทยุสื่อสาร 191 ปราจีนบุรี ว่ามีประชาชนนขอความช่วยเหลือ รถยนต์เก๋งนั่งส่วนบุคล ตกลงไปในคลองและรถกำลังจะจมน้ำภายในรถมีคนติดอยู่ในรถจำนวน 2 คน เหตุเกิดบริเวณถนนสายเลี่ยงเมือง เขตเทศบาลตำบลกบินทร์-บ้านท่าขี้เหล็ก ต.กบินทร์ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี หลังรับแจ้งได้ประสานหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสัจจพุทธธรรมแห่งประเทศ เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจตลาดพัฒนา ออกตรวจสอบ
พบบริเวณสะพานที่สอง ซึ่งเป็นทางโค้งหักศอก มืดไม่มีแสงสว่าง แผงเหล็กกั้นทางโค้งหายทั้งผง และไม่มีป้ายเตือน ซึ่งเป็นจุดเดียวกับที่เกิดอุบัติเหตุ รถยนต์กระบะ แหกโค้งชนต้นไม้เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา โดยด้านล่างจากสะพานเป็นคลองระบายน้ำสูงประมาณ 10 เมตร พบรถยนต์นั่งส่วนบุคล โตโยต้า ยาริส สีดำ ทะเบียน 4กฒ-378 กทม.สภาพจมอยู่ในน้ำภายในรถพบหญิงสาวจำนวน 2 คนติดอยู่ในรถ และกำลังจะจมน้ำ ในสภาพตกใจ เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยได้ระดมกำลังให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
ส่วนจุดเกิดเหตุบริเวณทางโค้งคอสะพาน พบร่องรอยและชิ้นส่วน รวมทั้งแผ่นทะเบียน ของรถคันกล่าวตกหล่นอยู่ ส่วนหญิงสาวทั้ง 2 คน เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยได้โรยตัวจากด้านบนลงด้านล่าง พร้อมนำเชือกลอยคอเข้าช่วยเหลือหญิงสาวทั้ง 2 คน นำขึ้นฝั่งอย่างปลอดไว้ ทราบชื่อคือนางสาวปุณิกา (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี เป็นคนขับ และนางสาวมลฤดี (สงวนนามสกุล) 23 ปี ทั้ง 2 คนอยู่ในอาการตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และหนาวสั่น เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยนำทั้ง 2 คนส่ง รพ.กบินทร์บุรี ให้แพทย์ตรวจเช็คร่างกาย
จากการสอบถามนางสาวปุณิกา คนขับ เปิดเผยว่า ตนได้ขับออกจากแปดริ้ว จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อจะกลับฉลองสงกรานต์ที่บ้านเกิด จ.ขอนแก่น โดยให้ GPS เป็นผู้นำทาง ขณะขับมาตามถนนสายดังกล่าวเป็นทางโค้ง และมืด รถจึงแหกโค้งพุ่งลงไปในคลองน้ำ จากนั้นได้ตะเกียก ตะกาย ออกจากตัวรถก่อนที่รถจะจมน้ำ และเมื่อตั้งสติได้จึงโทรศัพท์ เพื่อขอความช่วยเหลือจากตำรวจ 191 ดังกล่าว
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ถนนสายดังกล่าวเป็นถนนเลี่ยงเมือง เพราะถนนทางเดิมมีการก่อสร้างห้ามรถยนต์ผ่าน ประกอบกับไม่มีไฟแสงสว่าง แผงเหล็กกั้นถูกขโมยเกลี้ยง รวมทั้งป้ายแจ้งเตือน ถ้ายังไม่มีการแก้ไขเร่งด่วน คาดว่าจะมีผู้ใช้เส้นทางนี้ต้องประสบอุบัติเหตุ ถึงแก่ชีวิตและบาดเจ็บอีกแน่นอน
ข่าว-ภาพ สายชล หนูแดง , ทัตธน เหล่าหล้า , สุพัตรา อาษา ผู้สื่อข่าว จ. ปราจีนบุรี