"ทนายตั้ม" ลั่น ใครวิ่งเต้นช่วย "ปริญญ์" เคลียร์คดี รับรองว่าพัง
"ทนายตั้ม" นำผู้เสียหายแจ้งความอีก 1 ราย อ้างโดน "ปริญญ์" ลวงไปข่มขืน เมื่อปี 2563 พร้อมนำคลิปเสียงหลักฐานมามอบให้ตำรวจ ยอมรับเคยได้เงินให้ปิดเรื่อง ด้าน "ทนายตั้ม" ยันไม่กลัวฟ้องกลับ เชื่อผู้ก่อเหตุไม่มีประวัติทางจิต กล่าวอ้างสู้คดีไม่ได้
18 เม.ย.2565 จากกรณีเรื่องอื้อฉาวของ นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาคดีเกี่ยวกับการกระทำอนาจาร และคดีข่มขืน โดยมีหญิงสาวที่อ้างว่าเป็นผู้ถูกกระทำทยอยกันออกมาแจ้งความดำเนินคดี ซึ่งหลังจากที่นายปริญญ์ เข้ารับทราบข้อกล่าวหา และได้รับการปล่อยตัวชั่วเคราวไปแล้วตั้งแต่เมื่อวานนี้ (17 เม.ย.65) หลังทนายความยื่นหลักทรัพย์ 700,000 บาทประกันตัว
ล่าสุด ที่ สน.ลุมพินี นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม นำผู้เสียหายที่อ้างว่าถูก นายปริญญ์ ลวงไปกระทำการล่วงละเมิดทางเพส และกระทำอนาจารมาแจ้งความคดีต่อพนักงานสอบสวนเพื่มเติม
ทนายตั้ม เปิดเผยว่า วันนี้นัดผู้เสียหายมาแจ้งความ 6 - 7 ราย แต่บางรายไม่สะดวกมาแล้ว ซึ่งผู้ที่พามาแจ้งความ ล่าสุดเป็นผู้อัดคลิปเสียงหลักฐานการพูดคุยกับผู้ก่อเหตุ ซึ่งเหยื่อรายนี้ เคยถูกข่มขืนเมื่อปี 2563 ซึ่งยังอยู่ในอายุความ เพราะมีการแก้ไขกฎหมายไม่ให้เป็นคดียอมความได้ ทั้งนี้ ในตอนแรกเหยื่อไม่ยอมแจ้งความตั้งแต่เกิดเรื่อง แต่กลัวจะดำเนินคดีไม่ได้ อีกทั้งผู้ก่อเหตุยังเสนอเงินมาให้เรื่องจบไป 2 - 3 ครั้ง ก็ได้รับไว้ เนื่องจากโดนข่มขู่ว่าพ่อผู้ก่อเหตุใหญ่มาก แต่ตอนนี้ไม่ได้รับเงินแล้ว
สำหรับเรื่องคลิปเสียงที่อ้างว่าเป็นขบวนการของพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง ที่ต้องการจะดิสเครดิตนั้น ทนายตั้ม ยืนยันว่าไม่รู้จักกับคนในพรรคดังกล่าว ตนไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย ถ้าจะกลั่นแกล้งทางการเมืองไปทำคนที่มีโอกาสได้มากกว่า หากผู้ก่อเหตุพยายามบีบบังคับข่มขู่เหยื่อ ตนจะทำเรื่องถอนการประกันตัว ยืนยันตอนนี้ยังไม่มีใครถอนแจ้งความ แต่บางคนไม่ให้ความร่วมมือต่อ เมื่อวานนี้เขาควรจะไปที่ศาลเพื่อทำเรื่องค้านการประกันตัวผู้ต้องหาแต่เขาไม่ไป ขอไม่ระบุว่าเป็นใคร แต่ให้ดูว่าใครยังสู้ ใครเงียบไป
ทนายตั้ม ยังบอกอกีว่า ตนเชื่อว่าผู้ก่อเหตุไม่มีประวัติการรักษาอาการทางจิต แต่ไม่น่านำมาเป็นข้ออ้างในการต่อสู้คดี เพราะเขายังไปเป็นวิทยากรเวทีต่างๆ ได้ มีสติปกติดี เขาจะซื้อบริการก็ยังได้ แต่ดูว่ามีรสนิยมชอบคนที่ขัดขืน ทั้งนี้ ขอชื่นชมตำรวจ สน.ลุมพินี ที่ประสานกับผมตลอด ทั้งการเตรียมพนักงานสอบสวน และจะให้ผู้เสียหายที่มาแจ้งความทั้งหมดรวมเป็นสำนวนคดีเดียว