ข่าว

“แรมโบ้” ลาออก ไม่ได้ทำให้เรื่องจบ “นายกรัฐมนตรี” ยังต้องรับผิดชอบ

“แรมโบ้” ลาออก ไม่ได้ทำให้เรื่องจบ “นายกรัฐมนตรี” ยังต้องรับผิดชอบ

18 เม.ย. 2565

สมชัย ชี้ "แรมโบ้" ลาออก ไม่ได้ทำให้เรื่องจบ "นายกรัฐมนตรี" ยังต้องรับผิดชอบ ตามระเบียบบริหารราชการแผ่นดินที่ให้อำนาจไว้

เสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี มีผลตั้งแต่วันที่19 เมษายน เป็นต้นไป หลังมีคลิปหลุดพูดคุยกับจุรีพร สินธุไพร เรื่องโควต้าสลากกินแบ่งรัฐบาล ให้เหตุผลว่าไม่ให้เกิดข้อครหากับนายกรัฐมนตรีว่าใช้อำนาจหน้าที่ในการปกป้องตัวเขาที่พร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม โดยยืนยันว่าเป็นความประสงค์ของตนเองไม่มีการปลดหรือบีบบังคับให้ลาออก เพื่อพิสูจน์ความจริงกับกระบวนการยุติธรรม ไม่อยากให้นายกรัฐมนตรีมาด่างพร้อยเพราะตนเอง

“แรมโบ้” ลาออก ไม่ได้ทำให้เรื่องจบ “นายกรัฐมนตรี” ยังต้องรับผิดชอบ

สำหรับภารกิจการแก้ไขปัญหาสลากกินแบ่งรัฐบาลไม่เกิน 80 บาทส่วนตัวมั่นใจว่าหากสลากกินแบ่งรัฐบาลดำเนินตามแนวทางอนุกรรมการที่เป็นประธานจะสามารถแก้ไขปัญหาราคาสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคาได้อย่างแน่นอน พร้อมกันนี้จะขอใช้สิทธิ์ส่วนตัวดำเนินคดีตามกฏหมายใครที่ไม่ประสงค์ดีหวังบ่อนทำลายชื่อเสียงของเขาเพื่อไม่ให้ทำกับคนอื่นอีก ซึ่งได้แจ้งความไว้ที่ สน.ดุสิตแล้ว เพื่อให้นำทุกคนที่เกี่ยวข้องในการอัดคลิปเสียงมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด โดยในวันพรุ่งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะออกหมายเรียกบุคคลชื่อกิ๊กที่นางจุรีพรได้อ้างถึงมาสอบสวนสอบปากคำ

ส่วนเรื่องพรรคการเมืองตนเองเป็นผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมไทยสร้างชาติขอใช้เวลานี้ในการเคลียร์ตัวเองก่อนเพราะไม่ได้มีตำแหน่งในพรรค

สมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง โพสต์เฟสบุ๊คระบุว่าตามพรบ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534  มาตรา 11 ใน วงเล็บ 1ระบุถึงอำนาจหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี ไว้ว่า กำกับโดยทั่วไปซึ่งการบริหารราชการแผ่นดิน  ….และมีอำนาจสั่งสอบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการปฏิบัติราชการของราชการส่วนกลาง ราชการส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่นการปรากฏเป็นข่าวว่า กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีเรียกรับผลประโยชน์เพื่อแลกกับการให้สิทธิประโยชน์ในการได้โควต้าค้าสลากกินแบ่งเป็นเรื่องที่นายกรัฐมนตรี ต้องตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงให้เป็นที่ประจักษ์  แม้บุคคลดังกล่าวจะประกาศลาออกจากทุกตำแหน่งของข้าราชการการเมือง  ไม่ได้หมายความว่า นายกรัฐมนตรีจะยกเว้น หรือถือเป็นเรื่องสิ้นสุดได้