จับ "แรงงานกัมพูชา" ทะลัก " ชายแดน ลอบเข้า-ออกไทยหลายจุด รวม 45 ราย | คมชัดลึก

22 เม.ย.2565   ผู้สื่อข่าวรายงาน สืบเนื่องจากมาตรการเข้มงวดการลักลอบข้ามแดนโดยผิดกฎหมาย และ กระทำความผิดทุกรูปแบบในช่วงสถานการณ์การระบาดของเชื้อโควิด-19 โดยเฉพาะช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์  เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่่กองร้อยทหารพรานที่ 1203 ชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 12 ร่วมกับ ชุดเฉพาะกิจ ฉก.ร.111 กองกำลังบูรพา ได้จัดกำลังพลทำการลาดตระเวนและเฝ้าตรวจในเขตพื้นที่รับผิดชอบ

 

เจ้าหน้าที่พบบุคคลต้องสงสัยเดินเท้ามาตามช่องทางธรรมชาติมุ่งหน้ามายังฝั่งไทย บริเวณพิกัดระหว่างจุดตรวจ ต.27-28 บ.ทัพเซียม ม.10 ต.ตาพระยา อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว จำนวน 26 คน เป็นชาย 12 คน หญิง 12 คน และเด็กผู้ติดตามอีก 2 คน จึงได้ทำการเข้าตรวจสอบในขั้นต้น ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายเป็นปกติ และไม่พบเอกสารหนังสือเดินทาง หรือเอกสารการลงทะเบียนให้แรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติอยู่ในราชอาณาจักร จึงนำตัวมาสอบสวนฯ

 

 

 

 

 

 

 

จากการสอบสวนทราบว่าทั้งหมดเป็น แรงงานกัมพูชา  มีภูมิลำเนาอยู่ที่ บ.จำกาสวาย ต.เฉือเตียน อ.บานอน จ.พระตะบอง ,บ.ปะเรียน ต.ปะเรียะได อ.กะไร จ.เสียมราฐ เคยเข้ามารับจ้างทำงานทั่วไปที่ ถนนกีบหมู แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร และโรงงานผลิตสายไฟ ไม่ทราบชื่อบริษัท ต.มาบยางพร อ.ปลวกแดง จ.ระยอง จะเดินทางกลับภูมิลำเนาประเทศกัมพูชา แต่ถูกเจ้าหน้าที่ทหารพรานตรวจพบและแสดงตัวเข้าจับกุม ซึ่งในขณะจับกุมไม่พบผู้นำพา เจ้าหน้าที่กองร้อย ทพ.1203 จึงได้ควบคุมตัวชาวกัมพูชาทั้งหมด มาซักถามเพิ่มเติมที่ทำการกอง ร้อย.ทพ.1203 เพื่อดำเนินการตามกฏหมาย 

 

 

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 12  ออกลาดตระเวนสกัดกั้นการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ในพื้นที่รับผิดชอบ บ.ผ่านศึก หมู่ 4 เขต 3 ต.ผ่านศึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว และได้ร่วมกันจับกุมแรงงานกัมพูชาที่ลักลอบหลบหนีเข้ามาโดยผิดกฎหมาย จำนวน 15 คน เป็นชาย 8 คน หญิง 5 คน และเด็กผู้ติดตามอีก 2 คน สัญชาติกัมพูชา

 

ซึ่งจากการสอบสวนทราบว่า ชาวกัมพูชาทั้ง 15 คน ลักลอบข้ามแดนผ่านคลองน้ำใส ชายแดนไทย-กัมพูชา เข้ามาในประเทศไทย โดยไม่มีเอกสารแสดงตนหรือเอกสารอื่น ๆ จึงได้ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายเป็นปกติ พร้อมกับควบคุมตัวส่งให้กับพนักงานสอบสวน  สภ.คลองน้ำใส เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย
 

 

 

 

 

 

 

 

นอกจากนั้น ในพื้นที่ อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว เจ้าหน้าที่ชุดเคลื่อนที่เร็ว ฉก.ร.111 ได้ร่วมกับ ชรบ.บ้านตาพระยา ตั้งจุดตรวจจุดสกัดบริเวรด่าน ชรบ.บ.ตาพระยา อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว สามารถตรวจพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้าโซนิค สีแดง ทะเบียน ขจง-508 ราชบุรี โดยมี นายสัก ดำ ชาวกัมพูชา อายุ 19 ปี เป็นคนขับ มีนายเวิอง ซัมบอ อายุ 23 ปี ชาวกัมพูชา และนายเวิอง ซัมบัติ ชาวกัมพูชา พี่น้องฝาแฝด นั่งซ้อนท้ายมา จึงขอตรวจสอบ 

 

โดยทั้ง 2 คน ให้การว่า ลักลอบเดินเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยใช้ช่องทางธรรมชาติระหว่างจุดตรวจ ต.16-17 หลังจากนั้นเดินมาขึ้นรถจักยานยนต์ของนายสัก ดำ บริเวณทางเข้าหมู่บ้านคลองแผง เพื่อให้ไปส่งขึ้นรถที่ได้ติดต่อไว้ โดยจ่ายเงินให้คนละ 200 บาท เพื่อที่จะเดินทางเข้าไปทำงานรับจ้างก่อสร้างที่ เขตมีนบุรี

 

 

 

 

อย่างไรก็ตาม หลังสอบสวนและใช้เบอร์โทรศัพท์โทรนัดให้รถที่แรงงานกัมพูชานัดหมายไว้มารับ บริเวณหน้าปั้มน้ำมันแห่งหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงเข้าจับกุมรถแท็กซี่สีชมพู ทะเบียน กห-8300 กทม. ที่จอดรออยู่  จากการตรวจสอบพบ นายชัยสิทธิ์  (สงวนนามสกุล)   อายุ 48 ปี เป็นคนขับ โดยให้การว่า ตนมาส่งผู้โดยสารที่ จ.สระแก้ว แล้วเพื่อนติดต่อมาให้มารับแรงงานชาวกัมพูชาที่ อ.ตาพระยา เพื่อไปส่งที่ เขตมีนบุรี โดยได้รับค่าจ้างคนละ 2,000 บ. แต่มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมเสียก่อน จึงนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คน นำส่งพนักงานสอบสาวน สภ.ตาพระยา เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย 

 

 

 

  
 

ยุทธนา พึ่งน้อย ผู้สื่อข่าว จ.สระแก้ว