"แมนซิตี้" โหดต่อเนื่องถล่ม"วัตฟอร์ด"เละ - "แมนยู"กู่ไม่กลับ
"แมนซิตี้"ไม่พลาดเปิดรังถล่มวัตฟอร์ดหายห่วง 5-1 สกอร์มาเร็วเร็วตั้งแต่นาทีที่ 4 งานนี้ "กาเบรียล เจซุส" เหมาคนเดียว 4 ประตู ด้านแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ที่พังมาจาก"ศึกแดงเดือด"ออกไปเยือน"ปืนใหญ่" ถูกบอมบ์กลับมา 3-1 ส่วน" นิวคาสเซิล " สุดร้อนแรงเก็บชัย 4 นัดติด
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ จ่าฝูงยังคงอยู่ในมือ " แมนซิตี้" อย่างเหนียวแน่น โดยล่าสุด "เรือใบสีฟ้า" ซึ่งลงแข่งเป็นนัด ที่ 33 เก็บเพิ่มเป็น 80 คะแนน นำ ลิเวอร์พูล รองจ่าฝูง ที่แข่ง 32 นัด มี 76 คะแนน ทั้งนี้ เรือใบสีฟ้า เล่นในบ้าน รับมือ วัตฟอร์ด "แตนอาละวาด" ทีมโซนท้ายตาราง เจ้าถิ่น ออกนำเร็ว ตั้งแต่ นาทีที่ 4 จาก กาเบรียล เจซุส จากนั้น เจซุส ก็ทำคนเดียวอีก 3 ประตูคือ นาทีที่ 23 , นาทีที่ 49 ลูกจุดโทษ และนาทีที่ 53 แมนซิตี้ ได้ประตูจาก โรดริโก้ เอร์นานเดซ นาทีที่ 34 ส่วนทีมเยือนได้ประตูจาก ฮัสซาน กามาร่า นาทีที่ 28 ผลการแข่งขันจบลง แมนซิตี้ นำจ่าฝูงในตาราง ส่วนวัตฟอร์ด อันดับ 19
สำหรับ"แมนซิตี้" ทำผลงานในเกมกลางสัปดาห์ ด้วยการเปิดบ้าน เอาชนะ ไบรท์ตัน 3-0 กระทั่งมาเอาชนะวัตฟอร์ด ในเกมประจำวันเสาร์ ด้าน แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ซึ่งลงเล่นนัดกลางสัปดาห์ โดยออกไปแพ้ให้กับ"ลิเวอร์พูล" 4-0 ในศึกแดงเดือด ในการลงเล่นนัดถัดมา " แมนยู" ออกไปเยือนอาร์เซน่อล และแพ้กลับมา 3-1 เจ้าถิ่น "ปืนใหญ่" ออกนำตั้งแต่นาทีที่ 3 จาก นูโน่ ตาวาเรส ตามด้วยประตูที่ 2 จาก บูกาโย่ ซาก้า ด้วยลูกจุดโทษ นาทีที่ 32 "ปีศาจแดง"ได้ ประตูจาก คริสเตียโน่ โรนัลโด้ นาทีที่ 34 และปิดท้ายอาร์เซน่อล ได้จาก กรานิต ชาก้า นาทีที่ 70 อันดับในตารางพรีเมียร์ลีก อาร์เซนอล อันดับ 4 ส่วนแมนยู อันดับ 6
นิวคาสเซิล ทำผลงานชนะติดต่อกันเป็นนัดที่ 4 รั้งอันดับ 9 ของตาราง โดย "สาลิกาดง" ทำผลงานในเกมล่าสุด ด้วยการไปเยือน นอริชซิตี้ และเอาชนะเจ้าถิ่น 0-3 โดยทีมเยือน ได้ประตูจาก โฌแอลินโตน นาทีที่ 35 และบวกเพิ่มประตูที่ 2 จาก โฌแอลินโตน นาทีที่ 41 และประตูย้ำชัยชนะ จากบรูโน กิลมาเรส นาทีที่ 49 สำหรับ นอริชซิตี้ จมอยู่ที่อันดับ 20 ของตาราง ( รั้งท้าย) ส่วนอีก 2 คู่ต่างมีผลเสมอ ด้วยสกอร์ 0-0 คือ เลสเตอร์ซิตี้ (10) เสมอ แอสตันวิล่า ( 15) และ เบรนท์ฟอร์ด ( 11) เสมอ สเปอร์ส ( 5)
แมนซิตี้ ในชุดแข่งสีฟ้า เปิดบ้านเอาชนะวัตฟอร์ด 5-1 ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ นัดประจำวันเสาร์
CREDIT PHOTO : https://www.facebook.com/mancity