ข่าว

เจ้าหนี้โผล่ แจ้งความ "สองผัวเมีย" หนีตุรกี รวมมูลค่าหนี้กว่า 20 ล้าน

เจ้าหนี้โผล่ แจ้งความ "สองผัวเมีย" หนีตุรกี รวมมูลค่าหนี้กว่า 20 ล้าน

24 เม.ย. 2565

เจ้าหนี้โผล่ แจ้งความ "สองผัวเมีย" หนีตุรกี รวมมูลค่าหนี้กว่า 20 ล้าน ลวงเหยื่อด้วยความเชื่อใจ คาดวางเเผนล่วงหน้า "หนีหนี้"

จากกรณี "สองผัวเมีย" พร้อมลูกอีก 2 คน บินหนีไปตุรกี ครอบครัวบุญชู คือนายนิรุตน์ บุญชู อายุ 41 ปี นางสาวนฤมล  เพ็ชรบุญมี อายุ 41 ปี พร้อมลูกอีก 2 คน อายุ 12 ปี และ 7 ปี ที่มีการประกาศตามหา เเต่สุดท้ายพบว่าเดินทางออกนอกประเทศไปยังประเทศตุรกี  โดยมีผู้เสียหายให้กู้ยืมเงินหลายราย   

ล่าสุด ผู้เสียหายที่หลงเชื่อทั้ง 2 คน ได้เข้าเเจ้งความ โดยถูกเชิดเงิน 1.5 ล้านบาท จากการเริ่มต้นลงทุนตั้งแต่เดือนธันวาคมจำนวน 5 แสนบาท ทยอยเพิ่มขึ้นเพราะเชื่อใจจากนั้นชวนเพื่อนอีก 2 คน ร่วมลงทุนจนมียอดสูงถึง 1.5 ล้านบาท จึงแจ้งความไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.บ้านด่านลานหอย จ.สุโขทัย เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2565 ข้อหาหมิ่นประมาท และฉ้อโกง เนื่องจากนางนฤมลแอบอ้างชื่อตนเองว่า เป็นผู้ดูแลกองทุนในอำเภอบ้านด่านลานหอย ทำให้ผู้เสียหายเสียชื่อเลียงโดยตนเองไม่รู้เรื่องเลย
 

ทั้งนี้ ผู้เสียหายและนางสาวนฤมล (ผู้หลบหนี) เคยรู้จักกันจากการขายสินค้าขายตรงที่เคยทำธุรกิจร่วมกัน ต่อมารู้ว่าเป็นเจ้าหน้าที่บัญชี กรรมการกองทุนหมู่บ้าน 2 กองทุน ที่หมู่ 3 ต.บ้านไร่ อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย  คือกองทุนออมทรัพย์เพื่อการผลิตบ้านไร่  และกองทุนหมู่บ้านและสถาบันการเงินชุมชน  มีพฤติกรรมชวนคนรู้จักให้ลงทุนปล่อยเงินกู้ให้กับสมาชิกกองทุนหมูบ้าน เเต่ไม่สามารถใช้เงินคืนกองทุนได้เมื่อถึงเวลากำหนด โดยนางสาวนฤมล ทำตัวเป็นคนกลาง  จะได้ดอกเบี้ยจากทั้งสองด้านคือทั้งผู้เดือดร้อน และนายหน้า เป็นดอกเบี้ยทั้งสองทาง ประมาณ 2-3 %  และทราบว่ามีการระดมทุนด้วยการแอบอ้างว่าดูแลหลายกองทุนในจังหวัดสุโขทัย  เป็นกองทุนวัวบ้าง หมูบ้าง กองทุนรวมบ้าง แล้วแต่เขาจะชวน 
 

สำหรับตนเองนั้นเคยร่วมลงทุนไป 5 รอบ และเคยคืนทุนมาเป็นก้อนล้านกว่าบาท และเอาไปลงทุนใหม่ จึงเชื่อใจ และมีการโอนเงินผ่านธนาคารมาต่อเนื่องและตรงเวลาตลอด โดยตนเองเป็นผู้โอนเงินจากการชวนเพื่อนอีก 2 คน  

 

ส่วนเรื่องการเดินทางออกประเทศตุรกีครั้งนี้คิดว่าน่าจะมีการวางแผนมาล่วงหน้า เพราะมีการขายบ้าน ซื้อที่ดิน ซื้อรถ  และยังสงสัยว่าการเดินทางระบุเวลา 20.30 น. แต่มีการออกจากกลุ่มไลน์ในเวลา  22.09  น. จึงอยากรู้ว่าใครลบข้อมูลไลน์ หรือมีใครถือโทรศัพท์แทนเขาเพื่อดำเนินกิจกรรมทางการเงินหรือไม่    อยากรู้ว่าเอาเงินไปทำอะไร ลงทุนเสียหาย หรือใช้เงินเกินตัว อยากให้มาคุยกัน และยังคาดหวังว่าจะได้เงินคืน เพราต้องรับผิดชอบยอดของเพื่อนที่ชวนมาด้วย ซึ่งเป็นเงินที่ตนเองเก็บออมทั้งชีวิต

 

ส่วนเจ้าหนี้รายอื่นของนางสาวนฤมลนั้น ทราบว่ายังมีกลุ่มใหญ่อีกกลุ่มที่ อ.ทุ่งเสลี่ยม   มียอดหนี้ตั้งแต่ 1 ล้านบาท ถึง 10 ล้านบาท  รวมยอดกว่า 20 ล้านบาท มีทั้งข้าราชการ แม่ค้า ชาวบ้าน  บางคนได้ผลกำไรมาบ้าง  บางคนลงทุนไปยังไม่ได้เงินกำไรคืนเลยสักบาท  และกำลังรวมตัวกันหาหลักฐานต่าง ๆ เพื่อแต่งตั้งทนายความ เข้าแจ้งความเอาผิด นางสาวนฤมล ต่อไป      

           
ศรีสุดา ชัยวงศ์ศรีอรุณ  ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จังหวัดสุโขทัย