ข่าว

"โควิด" ยังแรง เปิดจังหวัด ยังคงมติเดิม ขายเหล้าได้ถึงแค่ 3 ทุ่มเท่านั้น

"โควิด" ยังแรง เปิดจังหวัด ยังคงมติเดิม ขายเหล้าได้ถึงแค่ 3 ทุ่มเท่านั้น

26 เม.ย. 2565

"โควิด" ยังแรง เปิดจังหวัด ยังคงมติเดิม ขายเหล้าได้ถึงแค่ 3 ทุ่มเท่านั้น รวมกลุ่มคนทำกิจกรรมได้ไม่เกิน 600 คน

(วันที่ 26 เม.ย.2565) คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดขอนแก่น ได้มีการประชุมติดตามสถานการณ์ การแพร่ระบาดของ "โควิด" มาโดยตลอด ซึ่งพบว่า ยังคงมียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ทางคณะกรรมการฯ จึงได้มีมติให้คงประกาศจังหวัดฉบับที่ 67 โดยร้านอาหารจะยังคงจำหน่ายสุราได้ถึงเวลา 21.00 น. รวมกลุ่มคนทำกิจกรรมได้ไม่เกิน 600 คน มีผลถึงวันที่ 31 พ.ค.2565 โดยในประกาศนั้น บังคับใช้ทั้ง 26 อำเภอของจังหวัดขอนแก่น

 

 

ที่ประชุม ระบุว่า แม้ว่าทาง ศบค.ส่วนกลาง ได้มีการประกาศคลายล็อกให้สามารถทำกิจกรรมทางสังคมได้กว้างขึ้น และสามารถจำหน่ายสุราได้ถึง 23.00 น. แต่จากสถานการณ์ที่มีผู้ติดเชื้อ "โควิด" เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ทางคณะกรรมการฯจึงได้ร่วมกันประเมินสถานการณ์แล้ว ยังคงใช้ประกาศจังหวัดเดิมต่อไปอีก โดยร้านอาหารจะยังคงจำหน่ายสุราได้ถึง 21.00 น. รวมกลุ่มคนทำกิจกรรมได้ไม่เกิน 600 คน

 

สถานบริการประเภทสถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ สถานประกอบกิจการอาบน้ำ อาบอบนวด หรือสถานที่มีลักษณะคล้ายกัน ให้ปิดบริการไปจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะมีการสุ่มตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง ให้มีการปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเคร่งครัด ซึ่งจะใช้วิธีว่ากล่าวตักเตือน หากครั้งต่อไปไม่ปฎิบัติตามก็จะดำเนินการตามกฎหมายโดยไม่ละเว้น

หากผู้ใดฝ่าฝืนประกาศจังหวัด จะมีความผิดตามมาตรา 18 แห่ง พรก.ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และความผิดตาม พรบ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท


นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า ขณะนี้ในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ยังคงมียอดผู้ติดเชื้อ "โควิด" พุ่งสูงอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 359 คน และยังเป็นบุคลากรทางการแพทย์ 21 คน ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมตั้งแต่ 1 เม.ย.2564 เป็นต้นมา รวม 74,244 คน รักษาหายแล้ว 50,011 คน อยู่ระหว่างการรักษา 24,013 คน เสียชีวิตสะสม 190 คน โดยได้เน้นย้ำการปฏิบัติงานนอกสถานที่ (WFH) ในหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนอย่างเต็มขีดความสามารถ โดยจะต้องไม่กระทบต่อการให้บริการแก่ประชาชน ส่วนการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เข็มกระตุ้น เข็ม 3 ในเด็กนักเรียน อายุ 12-17 ปี จะต้องแล้วเสร็จก่อนเปิดเทอม และมอบหมายศึกษาธิการจังหวัด จัดเตรียมรายชื่อนักเรียน ส่งให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด เพื่อจัดสรรวัคซีนและประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการนัดฉีดวัคซีนต่อไป