ข่าว

เฉลิมชัย สั่งเร่งเครื่องพลิกโอกาส "ถั่วเหลืองไทย" สร้างความมั่นคงอาหาร

เฉลิมชัย สั่งเร่งเครื่องพลิกโอกาส "ถั่วเหลืองไทย" สร้างความมั่นคงอาหาร

01 พ.ค. 2565

รมว.เกษตรฯ เฉลิมชัย ศรีอ่อน สั่งเร่งเครื่องพลิกโอกาส "ถั่วเหลืองไทย" พืชเศรษฐกิจ สร้างความมั่นคงอาหารของประเทศ

นายฉันทานนท์ วรรณเขจร เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) โฆษกกระทรวงเกษตรฯ เปิดเผยว่า ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้สั่งการให้ สศก. ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ เอกชน และ เกษตรกร ส่งเสริมการผลิต "พืชเศรษฐกิจ" เพื่อความมั่นคงทางอาหารโดยเฉพาะ "ถั่วเหลือง"ซึ่งเป็นพืชที่ให้ทั้งโปรตีนและน้ำมันและยังเป็นวัตถุดิบที่สำคัญของอุตสาหกรรมหลายประเภททั้งอุตสาหกรรมแปรรูปผลิตภัณฑ์อาหาร อุตสาหกรรมสกัดน้ำมัน และอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ 


จากสถานการณ์การผลิตและการตลาด "ถั่วเหลือง" ในปี 2565 หรือปีเพาะปลูก 2565/66 (ข้อมูลพยากรณ์ ณ 24 กุมภาพันธ์ 2565) พบว่า ประเทศไทยมีเนื้อที่เพาะปลูก 85,226 ไร่ แบ่งเป็น "ถั่วเหลือง รุ่น 1"  จำนวน 26,208 ไร่ และ "ถั่วเหลือง รุ่น 2" จำนวน 59,018 ไร่  ผลผลิตรวม 23,007 ตัน  (ถั่วเหลือง รุ่น 1 จำนวน 7,836 ตัน และถั่วเหลือง รุ่น 2 จำนวน 15,171 ตัน)

 

โดยเนื้อที่เพาะปลูกลดลงจากปีที่ผ่านมา ซึ่งมีจำนวน 88,010 ไร่ (ลดลงร้อยละ 3.40)และผลผลิตลดลงจากที่มีจำนวน 23,482 ตัน (ลดลงร้อยละ 2.02) เนื่องจาก "ถั่วเหลือง" เป็นพืชที่ให้ผลตอบแทนน้อยกว่าพืชอื่น เกษตรกรบางส่วนจึงหันไปปลูกพืชอื่นที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า เช่น ข้าว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เป็นต้น 
 

      เฉลิมชัย สั่งเร่งเครื่องพลิกโอกาส \"ถั่วเหลืองไทย\" สร้างความมั่นคงอาหาร

 

ที่ผ่านมาพื้นที่เพาะปลูก "ถั่วเหลือง" และ "ผลผลิตถั่วเหลือง" ลดลงอย่างต่อเนื่องทุกปี ไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ภายในประเทศ เนื่องจากต้นทุนการผลิตที่สูง ขาดแคลนเมล็ดพันธุ์ที่ดีต้องใช้แรงงานสูงโดยเฉพาะในการเก็บเกี่ยว ขณะที่ความต้องการใช้ในประเทศมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

ซึ่งหากพิจารณาข้อมูล 5 ปีย้อนหลัง  (ปี 2560 – 2564) ความต้องการใช้ "ถั่วเหลือง"ในประเทศมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.92 ต่อปี โดยปี 2565 คาดว่าความต้องการใช้ "เมล็ดถั่วเหลือง" มีปริมาณ 4.02 ล้านตัน มีสัดส่วนการใช้ผลผลิตภายในประเทศ ร้อยละ 0.58 และยังต้องนำเข้าร้อยละ 99.42 ของปริมาณความต้องการใช้ทั้งหมด ส่งผลแนวโน้มการนำเข้ายังเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.15 ต่อปี ทั้งนี้ ปี 2565 คาดว่าการนำเข้า "เมล็ดถั่วเหลือง" มีปริมาณ 4.00 ล้านตัน เพิ่มขึ้นตามความต้องการใช้ของภาคอุตสาหกรรมภายในประเทศ 

เฉลิมชัย สั่งเร่งเครื่องพลิกโอกาส \"ถั่วเหลืองไทย\" สร้างความมั่นคงอาหาร

 

ด้าน "ราคาถั่วเหลือง" ที่เกษตรกรขายได้ (เกรดคละ) มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นร้อยละ1.96 ต่อปีโดยในปี 2564 เฉลี่ยกิโลกรัมละ 17.16 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 16.71 บาท ในปี 2563 ร้อยละ 2.69 และปัจจุบัน ราคา ณ ช่วงสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนมีนาคม 2565 กิโลกรัมละ 20.20 บาท 

ส่วน "ราคาถั่วเหลือง" นำเข้า ณ ท่าเรือเกาะสีชัง มีแนวโน้มสูงขึ้น ร้อยละ 3.62 ต่อปี โดยในปี 2564 ราคาถั่วเหลืองนำเข้า ณ ท่าเรือเกาะสีชัง เฉลี่ยกิโลกรัมละ 18.15 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 12.51 บาท ในปี 2563 (สูงขึ้นร้อยละ 45.08)  ซึ่งราคาสูงขึ้นไปในทิศทางเดียวกับราคาในตลาดโลก


จากสถานการณ์ "ถั่วเหลือง" ข้างต้นจะเห็นได้ว่า "ผลผลิตถั่วเหลือง" ในประเทศมีไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้เป็นจำนวนมาก อีกทั้งแนวโน้มราคายังมีทิศทางปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนที่อาจกระทบต่อการนำเข้าพืชอาหารสัตว์

 

ดังนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงมีนโยบายเร่งส่งเสริมการผลิต "ถั่วเหลือง" ในประเทศ โดยมอบหมายให้ สศก. ร่วมกับทุกภาคส่วนส่งเสริมการผลิตในประเทศ พัฒนาศักยภาพการผลิตและคุณภาพของถั่วเหลือง สศก.จะมีการลงพื้นที่ระหว่างวันที่ 7-8 เมษายน 2565 ณ จังหวัดเชียงใหม่และแม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นแหล่งผลิตที่สำคัญของประเทศ เพื่อพูดคุยกับเกษตรกร "ผู้ปลูกถั่วเหลือง" เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ รวมทั้งสหกรณ์ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการรับซื้อเมล็ดถั่วเหลือง และผู้ประกอบการที่ใช้เมล็ดถั่วเหลืองเป็นวัตถุดิบในการหาแนวทางที่จะเพิ่ม "ผลผลิตถั่วเหลือง" ในประเทศร่วมกัน  เลขาธิการ สศก. กล่าว