มอบตัวแล้ว 1 โจ๋ 14 คึกคว้าM16 "ยิงปืนขึ้นฟ้า" ฉลอง "ฮารีรายอ" อีกคนยังเงียบ
ผู้ปกครองเด็กชายวัย 14 นำตัวมอบตัวแล้ว หลังคลิป "ยิง M16 ขึ้นฟ้า" ฉลอง "ฮารีรายอ" ว่อนโซเชียล สารภาพปืนของพี่เขย ส่วนอีกคนอายุ 17 ยังไม่พบเจ้าหน้าที่ตำรวจ
จากกรณีในโลกโซเชียลในพื้นที่ จ.ยะลา มีการเผยแพร่คลิปชายวัยรุ่น 2 คน ใช้อาวุธปืนสงคราม M16 ยิงขึ้นฟ้าหลายนัด เพื่อเฉลิมฉลองวันตรุษอิฎิ้ลฟิตรี ฮ.ศ.1443 หรือ วันฮารีรายอ เมื่อวันที่ 2 พ.ค.65 ที่ผ่านมา โดยเหตุเกิดในพื้นที่บ้านกำปงบือแน หมู่ที่ 2 ต.จะก๊วะ อ.รามัน จ.ยะลา หลังคลิปดังกล่าวเผยแพร่ ทำให้เกิดวิพากษ์วิจารณ์ ถึงการใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้าเฉลิมฉลอง เป็นอันตราย เหมือนสุ่มเป้าให้คนตายโดยไม่ทันรู้ตัว
ล่าสุด วันนี้ (5 พ.ค.65) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเที่ยงของวันที่ 4 พ.ค.65 ที่ผ่านมา ได้มีนางอาซือเมาะ (สงวนนามสกุล) พร้อมด้วย เด็กชาย อายุ 14 ปี ซึ่งเป็น 1 ในวัยรุ่นที่ก่อเหตุใช้อาวุธปืนสงครามยิงขึ้นฟ้าที่ปรากฏในคลิป เข้ามาพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุด สืบสวน สภ.จะกว๊ะ อ.รามัน จ.ยะลา
ซึ่งจากการซักถามเด็กชายวัย 14 ปี คนดังกล่าวทราบว่า ในวันที่เกิดเหตุนั้น วัยรุ่นวัย 14 ปี ได้นำเอาอาวุธปืนลูกซอง ยี่ห้อ DERYA MK-12 ของนายอำนาจ (สงวนนามสกุล) ซึ่งเป็นพี่เขย และอาวุธปืนกระบอกดังกล่าวได้วางไว้ในบ้านพัก ได้นำออกไปยิงขึ้นฟ้าฉลองวันฮารีรายอ ภายในสวนยางพาราใกล้บ้าน จำนวน 3 นัด โดยมีเพื่อนช่วยกันถ่ายคลิปเอาไว้ และตนเองได้นำคลิปโพสต์ลงในโซเชียลมีเดีย จนเกิดปัญหาดังกล่าว
จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุด สืบสวนได้นำตัวเด็กวัยรุ่น อายุ 14 ปี คนดังกล่าว ส่ง พนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีต่อไป ส่วนวัยรุ่นวัย 17 ปี ญาติหรือผู้ปกครองยังไม่ได้นำตัวไปรายงานตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.จะกว๊ะ อ.รามัน จ.ยะลา แต่อย่างใด
สำหรับขัอมูลจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่า กรณีที่มีการยิงปืนขึ้นฟ้าในช่วงการเฉลิมฉลองเทศกาลต่างๆ ผู้กระทำความผิดจะเข้าข่ายโดนข้อหาตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 มาตรา 8 ทวิ “ห้ามมิให้ผู้ใดพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาต ผู้ใดฝ่าฝืนจะมีความผิดตามกฎหมาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
และหากกระสุนตกลงในหลังคาบ้าน ทำให้ทรัพย์สินเสียหายหรือผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ เสียชีวิต นั้น จะมีความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291 “ผู้ใดกระทำโดยประมาท และการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี และปรับไม่เกิน 200,000 บาท” มาตรา 300 ผู้ใดกระทำโดยประมาท และการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายสาหัส ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาวันดี รามันห์สิริวงศ์ ผู้สื่อข่าว จ.ยะลา